ตอนที่ 11
ที่อุตรกุรุทวีป เหมหิรัญญ์ยังคงต่อรองกับอัศวเทวาขอกลับไปช่วยมนุษย์จิตบริสุทธิ์ของชมพูทวีปผู้ถือกุญแจประตูแห่งกาล ถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อมีเสียงปืนดังก้องเข้ามาในหัว ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของ เดือนพัตรา อัศวเทวาเห็นท่าทางกระวนกระวายใจของเขาก็เตือนด้วยความหวังดี
“หากท่านมีจิตที่กระวนกระวายอยู่เช่นนี้ ท่านจะช่วยผู้ใดได้ ท่านต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ของท่านเสียก่อน มิเช่นนั้นสิ่งที่ท่านคิดจะทำไม่มีทางสำเร็จและมันจะนำภัยมาให้ท่าน”
เสียงร้องขอความช่วยเหลือที่ดังต่อเนื่องของเดือนพัตราทำให้เหมหิรัญญ์ร้อนรนไปหมด ทั้งอ้อนวอนทั้งขอร้องให้อัศวเทวาปล่อยเขากลับไปชมพูทวีป เสร็จธุระจากทางโน้นแล้วเขาจะกลับมารับโทษ อัศวเทวาทนเสียงรบเร้าของเขาไม่ไหวสุดท้ายยอมให้เขากลับไป
จากนั้นไม่นานเหมหิรัญญ์ก้าวออกมาจากกระจกโบราณ กวาดตามองหาเดือนพัตราทั่วห้องแต่ไม่เห็น จึงเดินออกจากห้องเจอปลาทูกำลังทำความสะอาดบ้านถามถึงเดือนพัตราหายไปไหน
“คุณเดือนไปข้างนอกกับคุณศิถีค่ะ”
เหมหิรัญญ์ยิ่งเป็นกังวลเพราะไม่ไว้ใจศิถีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มีเสียงรถแล่นเข้ามาในบ้าน ปลาทูตั้งข้อสังเกตว่านั่นอาจเป็นเสียงรถของเดือนพัตรา เขารีบลงไปดู ปรากฏว่าเป็นรถของมรุตที่มากับจ่าสนิท เขาเข้าไปยืนประจันหน้ากับผู้กองหนุ่ม จ่าสนิทเห็นท่าไม่ดีรีบร้องทัก
“นี่คุณเหมรู้เรื่องคุณเดือนแล้วใช่ไหมครับ”
“เดือนพัตราอยู่ไหน”
“อ้าว คุณเหมยังไม่ทราบหรือครับว่าคุณเดือนถูกคนร้ายจับตัวไป” จ่าสนิทพูดไม่ทันขาดคำ เหมหิรัญญ์หันหลังกลับเข้าตัวบ้าน เห็นพิมพ์ดารากำลังเดินสวนออกมารีบหันกลับมาบอกมรุตกับจ่าสนิท
“พวกคุณกลับไปก่อน ผมไม่อยากให้คุณพิมพ์ต้องเป็นกังวล ส่วนเรื่องของเดือนพัตราผมจัดการเองได้”
“แต่เรื่องนี้เป็นคดีอาชญากรรม ผมมีสิทธิ์ยุ่ง” มรุตจ้องเหมหิรัญญ์อย่างเอาเรื่อง พิมพ์ดาราเดินมาถึงพอดี
“อ้าว ตาเหมกลับมาเมื่อไหร่แม่คิดถึ้งคิดถึง” พิมพ์ดาราชะงักเมื่อเห็นมรุตกับจ่าสนิท ยังโกรธทั้งคู่ไม่หาย ที่มาจับตัวเดือนพัตราคราวก่อน “มาทำอะไรที่นี่คะคุณตำรวจ ที่นี่ไม่ต้อนรับ เชิญกลับค่ะ”
มรุตถูกไล่ซึ่งหน้าไม่มีทางเลือกจำต้องล่าถอยกลับไป...
ด้านเหมหิรัญญ์ไม่ยอมคุยอะไรกับพิมพ์ดาราเนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของเดือนพัตรา ขอตัวก่อนแล้วรีบขึ้นไปที่ห้อง นั่งสมาธิเพ่งจิตตามหาหญิงคนรัก
ooooooo