เศรษฐกิจของไทยในปีที่ผ่านมาเติบโตต่ำเตี้ยจนเพลียหัวใจ วงการบันเทิงไทยอาการหนักยิ่งกว่า ไม่ว่าจะเป็นภาพใหญ่อย่างธุรกิจภาคสื่อกระจาย เสียงและโทรทัศน์ที่เหลือลมหายใจรวยริน กระทบถึงเทียร์สองอย่างผู้จัดละครที่ต้องปิดค่าย บางรายยังเป็นหนี้เป็นสินไม่มีเงินจ่ายค่าตัวนักแสดงจนกลายเป็นข่าว นี่ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

อย่างไรก็ตาม ช่อง 3 ก็พยายามปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ก่อนละครออน แอร์มีการเร่ขายโฆษณา ดังนั้น คุณภาพต้องมาก่อน ดาราต้องดัง กระแสต้องมี โดยในปีที่ผ่านมามีออนแอร์ละครใหม่ 29 เรื่อง เริ่มตั้งแต่ต้นปีมีละครพีเรียดฟอร์มปังอย่าง เรือนทาส ต่อด้วยแนวรักใสๆ “จนกว่าจะได้รักกัน” ประกบคู่พระนางดัง หมาก–ปริญ และ ญาญ่า–อุรัสยา, ในวันที่ฝนพร่างพราย ได้ มาริโอ้ ประกบ แต้ว–ณฐพร ทิ้งทวนก่อนเตรียมวิวาห์ แนวดราม่าหนักๆก็มี ลมเล่นไฟ ที่นำแสดงโดย อาเล็ก–ธีรเดช, เชอรี่–เข็มอัปสร, อแมนด้า ออบดัม, โลกหมุนรอบเธอ ดาราดังแน่นทั้ง เจมส์จิ, โบว์–เมลดา, ไอซ์–พาริส,หวานรักต้องห้าม เป็นการคัมแบ็กของ มาช่า วัฒนพานิช กับเรื่องราวความรักที่หมิ่นเหม่ต่อศีลธรรม, ละครพีเรียดฟอร์มดีอย่าง หนึ่งในร้อย ที่คว้า ต่อ–ธนภพ มาคู่กับ ญาญ่า–อุรัสยา ยังมีละครชุดสุดพิเศษที่หลายคนรอคอยอย่าง “ดวงใจเทวพรหม” รวม 5 เรื่อง ลออจันทร์” “ขวัญฤทัย” “ใจพิสุทธิ์” “ดุจอัปสร” “พรชีวัน ซึ่งได้แจ้งเกิดพระ-นางเจนใหม่ให้วงการ นอกจากนี้ ช่อง 3 ยังเพิ่มช่วงเวลาดึกให้แก่ซีรีส์เฉพาะกลุ่มแนวบอยเลิฟ เกิร์ลเลิฟ เสิร์ฟแบบจุกๆ 10 เรื่อง และที่ร้อนแรงสุดๆก็คือคู่หญิง-หญิง หลิงหลิง คอง กับ ออม–กรณ์นภัส จากเรื่อง ใจซ่อนรัก The Secret of Us ซึ่งดังไกลไปถึงต่างแดน รวมทั้งคู่วายที่หลายคนรอคอยอย่าง หยิ่น–อานันท์ กับ วอร์–วนรัตน์ ในเรื่อง “ทำไมต้องเป็นเธอทุกที Jack & Joker : U Steal My Heart!”

...

ช่อง 7HD ทีวีเพื่อคุณ รักษาตำแหน่งพี่เบิ้มสายละครไว้ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เพราะแม้แต่ช่วงไพรม์ไทม์ก็ยังมีการนำละครรีรันมาออนแอร์บ้างประปราย ขณะที่ยังมีการสูญเสียพระ-นางระดับท็อปอย่าง มุกดา นรินทร์รักษ์ ที่ไม่ต่อสัญญา และแม้แต่ เข้ม–หัสวีร์ ก็น่าจะตามไปด้วย สำหรับละครทั้งปีก็มีละครใหม่ทั้งหมด 17 เรื่อง ครบรสทุกรูปแบบ ละครแนวเอามันส์บู๊กันสนั่นจอก็อย่างเรื่อง ปล้นเหนือเมฆ”, “ลูกผู้ชายไม้ตะพด”, “คนกล้าท้าชน”, “ภูเขาเงาพยัคฆ์”, แนวดราม่าเข้มข้นก็มี สองทระนง”, “รอยรักรอยบาป ถือเป็นพีเรียดฟอร์มใหญ่เลยรวมดาวดังทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็กอาทิ ฟลุค–เกริกพล, เจี๊ยบ–พิจิตตรา, เกรซ–พัชร์สิตา, ภูมิ–เกียรติภูมิ ฯลฯ, ดุจเล่ห์ดาวลวง”, “ร้ายเดียงสา”, “เล่ห์ร้ายเกมลวง”, “เล่ห์มยุรา และ ไฟน้ำค้าง

ช่อง 8 ที่ทำท่าจะถอดใจ แต่สุดท้ายก็วิ่งสู้ฟัดยืนหยัดมาจนรอดตลอดปี โดยทั้งปีมี 6 เรื่อง ตั้งแต่ต้นปีละครพีเรียดฟอร์มยักษ์ “วิญญาณแพศยา” เอาตำนาน “ผีกะพระนาง” มาผูกเป็นเรื่องชวนสยองขวัญ ชื่อดาราแฟนๆเจนเบบี้บูมเมอร์และเจนเอ็กซ์ต่างคุ้นหูทั้ง หนุ่ม–ศรราม, ตอง–ภัครมัย, น้ำผึ้ง–ณัฐริกา ฯลฯ, “ทายาทไหทองคำ” กลิ่นอายความม่วนซื่นแนวอีสานผสมรสชาติปลาแดกลอยมาเลย ดาราก็มาแน่น เอ–ไชยา, รุ่ง–สิริยา, มนต์สิทธิ์ คำสร้อย, อ๊อฟ–ศุภณัฐ ฯลฯ, “เจ้าพ่อ” กับเรื่องราวความเชื่อสิ่งเหนือธรรมชาติ ได้ ท็อป–จรณ มาปะทะข้ามรุ่นกับ หนุ่ม–สันติสุข, “ศึกเสน่หา ไกรทอง–ชาละวัน” เขียนตำนานบทใหม่ของพญาจระเข้ ดาราแน่นปึ้ก กอล์ฟ–อนุวัฒน์, โอห์ม–ฐิติวัฒน์, ไอซ์–ปรีชญา, เทียน–อัจฉรี ฯลฯ

ช่องเวิร์คพอยท์ 23 เพิ่งประกาศยุติผลิตละคร และยุบแผนกทิ้งทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตาม ตลอดปีที่ผ่านมาก็ได้ทิ้งทวนด้วยละครทั้งหมด 7 เรื่อง เด็ดๆก็มี “นางทาสหัวทอง” กับเรื่องราวฉีกแนวนางเอก มินนี่–ภัณฑิรา ย้อนเวลากลับไปอดีตในสภาพโกรกผม “หัวทอง” ประกบกับ โอบ–โอบนิธิ, “บัลลังก์ลูกทุ่ง” เอาใจคอลูกทุ่งด้วยการคว้า ใบเตย–สุธีวัน มาประชัน เปา–เปาวลี ยังมี ฝน ธนสุนทร, ลูลู่–ดวงฤดี, ลาล่า– ขวัญนภา ฯลฯ, “เพลงลำคำเขื่อนแก้ว” ละครแนวถนัดของ หม่ำ จ๊กมก ที่เล่นเองกำกับเอง

ช่องวัน 31 เบียดขึ้นมาอยู่แถวหน้าของผู้ผลิตละครอย่างเต็มตัว สำหรับปีนี้มีละครใหม่ทั้งสิ้น 18 เรื่องและไม่ว่าจะเป็นละครเย็นหรือหลังข่าวค่ำต่างก็มีทีเด็ดและความสำเร็จไม่แพ้กัน อาทิ “นางฟ้ากรรมกร” ละครเย็น นำแสดงโดย ทอย–ปฐมพงศ์ และ เบสท์–รักษ์วนีย์ ที่ทำไฮเรตติ้งต่อเนื่องถึงตอนจบที่ 6.95 ทีเดียว, “มนต์รักแม่กลอง” ที่คว้า กัน–นภัทร ประกบ แพรว–เฌอมาวีร์ ก็ทำเรตติ้งตอนจบทะลุไป 7.23 เลย ส่วนละครค่ำก็คุณภาพคับจอทั้ง “วิมานสีทอง” ละครดราม่าที่คว้า เดียร์น่า ฟลีโป ข้ามช่องมาคู่กับ ฟิล์ม–ธนภัทร, “สงครามสมรส” โดนใจกับเรื่องราวสะท้อนชีวิตครอบครัว นำโดย แอฟ–ทักษอร, ชาคริต แย้มนาม, ตรี–ภรภัทร, มายด์–ลภัสลัล และอีกคนที่เด่นมาก เป้ย–ปานวาด, “บางกอกคณิกา” กับเรื่องราวที่สะท้อนสิทธิสตรี เพื่อนหญิง พลังหญิง นำโดย อิงฟ้า วราหะ, ก้อย–อรัชพร, ชาร์เลท–วาศิตา ฯลฯ, “ทองประกายแสด” ซึ่งค่าย CHANGE2561 ส่งบทเด่นให้ ใบเฟิร์น–พิมพ์ชนก อีกครั้ง ผ่านเรื่องราวชีวิตที่ขึ้นลงกับผู้ชายถึง 9 คน กระแสแรงตั้งแต่ต้นยันตอนจบด้วยเรตติ้ง 5.8, “แม่หยัว” ซีรีส์พีเรียดอิงประวัติศาสตร์ ที่คว้า ใหม่–ดาวิกา มารับบท “แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์” สตรีเหนือบัลลังก์อยุธยาเพียงหนึ่งเดียว มาพร้อมกับนักแสดงดังคับจอ

แม้จะเป็นปีที่ซบเซา แต่ในทางกลับกันกลับเป็นปีที่มีละครคุณภาพมากมาย ได้แก่ “ดวงใจเทวพรหม” ซีรีส์ฟอร์มยักษ์ของช่อง 3 ซึ่งทั้ง 5 เรื่องทำเรตติ้งได้พอๆกัน โดยเรื่องที่ทำได้สูงสุดเรตติ้ง 6 คือ “ขวัญฤทัย” และ “พรชีวัน” อีกทั้งยังแจ้งเกิดดาวรุ่งขึ้นมาประดับวงการอีกมากมายทั้ง ไมกี้–ปณิธาน, ญดา–นริลญา, เทศน์ ไมรอน, มิ้นท์–รัญชน์รวี, เก้า–นพเก้า ฯลฯ, “หนึ่งในร้อย” ละครวินเทจระดับพรีเมียมของช่อง 3 ที่คว้า ต่อ–ธนภพ จับคู่เคมีใหม่กับ ญาญ่า–อุรัสยา เป็นละครสวยมากเรื่องหนึ่ง เด่นตั้งแต่การถ่ายทอดความพีเรียดได้ละมุน ความรักของนางเอกหัวสมัยใหม่ที่ทำตามหัวใจปรารถนา ขณะที่พระเอกก็หัวโบราณคร่ำครึ ทั้งฉาก เสื้อผ้า หน้าผม ก็ปังปุริเย่, “สงครามสมรส” ละครที่หยิบเอาปัญหาครอบครัวยุคปัจจุบันมาตีแผ่ เรื่องนี้สมราคากับที่ แอฟ–ทักษอร เลือกเล่นเรื่องเดียวในปีนี้ บทเด่นมากกับผู้หญิงลุกขึ้นมาปกป้องศักดิ์ศรีผ่านกระบวนการยุติธรรม ไร้มลทินจากดราม่ามาแปดเปื้อน ประสบความสำเร็จทั้งกระแสและเรตติ้ง โดยเป็นละครที่ทำเรตติ้งสูงสุดของละครปีนี้ที่ 7.8, “ทองประกายแสด” อีกหนึ่งผลงานการแสดงที่ไปสุดซอยของ ใบเฟิร์น–พิมพ์ชนก ชีวิตโลดแล่นไปกับสามีถึง 9 คน ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลาม ทำให้เป็นตัวเก็งกวาดรางวัลนักแสดงนำหญิงในปีหน้า, “แม่หยัว” กระแสแรงตั้งแต่ยังไม่ออนแอร์เพราะคว้า ใหม่–ดาวิกา มารับบท “แม่หยัวศรีสุดาจันทร์” ออกสตาร์ตดี สมราคา นักแสดงเล่นได้ถึงทุกตัวละคร และที่ได้รับการกล่าวขานมากคือ “สนมเอกสี่ทิศ” ได้แก่ ใหม่–ดาวิกา, บิ๊นท์–สิรีธร, เฟิร์น–นพจิรา, เป้ย–ปานวาด สวยสะกดทุกนาง แต่ว่ามาสะดุดตรงละครเจอดราม่าหลายดอก เนื้อหาไม่ตรงประวัติศาสตร์, ตัวละครสาวทำเล็บเจล, เด็กใส่แพมเพิร์ส และวางยาสลบแมวซึ่งแรงที่สุด กลายเป็นข่าวใหญ่ลุกลามไปถึงขั้นเกิดกระแสแบนละครทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม ละครก็ฉายไปตลอดรอดฝั่ง

เมื่อพิจารณาละครทั้ง 5 เรื่องแล้วคุณภาพระดับพรีเมียมทั้งนั้น ทุกเรื่องต่างก็มีจุดเด่นมองเห็นอนาคตของละครไทยที่ยังจะไปได้ อีกไกล แต่ถ้าหาความยอดเยี่ยมที่สุดหนึ่งเดียวขอยกให้ “สงครามสมรส” เป็น “ละครแห่งปี” ที่มาวินในปี 2567

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่