icon member

นางทิพย์

ตอนที่ 14

รวิปรียาที่เฝ้ามองจากสวรรค์เห็นคุณหลวงปลอดภัยยิ้มดีใจ สินีวาลีเชื่อว่าภาธรต้องขอบใจเธอที่ทำให้พ่อลูกเข้าใจความรักความผูกพันต่อกันท้าวสุยามะนึกถึงทรงศิริขึ้นมา

“ส่วนอีกคนเมื่อผลกรรมตามทันก็ไม่มีอะไรยับยั้งได้”...

เป็นอย่างที่ท้าวสุยามะว่าไว้ ทรงศิริเห็นผีชาลีมาเกาะปลายเตียงขอร้องให้ช่วยถอดโซ่ตรวนที่ข้อเท้าให้ ตกใจตาเหลือกลุกพรวดจากเตียงคว้ากล่องสมบัติที่ซ่อนไว้ใต้เตียงขึ้นมากอด อรณี สารัชกับปริตตารีบเข้าไปดูแล ท่านหาว่าสามคนนั่นจะมาขโมยสมบัติของตัวเอง ผลักอรณีกระเด็น สารัชรีบประคองเมียรักไว้

“คุณหญิงยายคะ นี่หนูเอง” ปริตตาพยายามจับตัวท่านไว้ ท่านปัดมือผลักเธอเซไปอีกคนแล้วกอดกล่องใส่สมบัติวิ่งหนีออกจากห้อง ปริตตา สารัชและอรณีรีบตามมาห้าม ทรงศิริยิ่งหลอนหนักคิดว่าพวกนั้นจะมาเอาสมบัติไปจากตัวเองวิ่งหนีลงบันได อารามรีบร้อนก้าวพลาดตกบันไดลงมาหัวกระแทกพื้นคอหัก สร้อยเพชร แหวนกำไลทองคำหล่นจากกล่องกระจายเกลื่อนรอบตัว อรณีช็อกรีบวิ่งไปประคองแม่ไว้

“ไม่ คุณแม่...อย่าทิ้งอรไป คุณแม่ ไม่” อรณีร้องไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ

ที่อีกมุมหนึ่งไม่ห่างนัก วิญญาณทรงศิริออกจากร่างลอยไปหาผีชาลีด้วยสีหน้าอมทุกข์ ขอร้องให้ช่วยถอดตรวนที่ขาให้ สองผัวเมียที่มีโซ่ตรวนที่ขามองลูกหลานที่กำลังร้องไห้ให้กับการจากไปของทรงศิริด้วยสีหน้าทุกข์ทรมานไม่ต่างกัน...

ท้าวสุยามะละสายตาจากเรื่องของทรงศิริหันไปที่ ลูกสาว ในเมื่อลูกได้เรียนรู้กิเลสของมนุษย์แล้ว พลังของกิเลสเป็นพลังที่ทำให้มืดมัวเบาปัญญา พลังของเหตุผลต่างหากที่เป็นพลังทำให้แจ่มใสสว่าง

“ลูกจงดับกิเลสเหล่านั้นเสียเพื่อดำรงสภาวะเทพผู้มีสุขเป็นทิพย์อยู่ ณ ที่นี่ตลอดไป” ว่าแล้วท้าวสุยามะผละจากไป สินีวาลีเตือนในเมื่อรวิปรียารู้ถึงฤทธิ์เดชของความรักแล้ว อย่าให้มันทำให้เธอร้อนรนลุ่มหลงอีก...

หลังเมฆหมอกเลวร้ายผ่านพ้นไป บ้านสีหมนตรีก็มีเรื่องดีๆเข้ามา ทินเทพขอให้คุณหลวงไปทาบทามหมั้นหมายปริตตาไว้ก่อน เรียนจบเมื่อไหร่จะได้แต่งงานกัน ปริตตาขอให้ภาธรอยู่ร่วมงานหมั้นของเราสองคนก่อน อย่าเพิ่งกลับไปทำงานวิจัยที่เมืองนอก เขาพยักหน้ารับคำ...

ด้วยความคิดถึงที่มีต่อรวิปรียา ภาธรขอให้คุณหลวงช่วยสอนนั่งสมาธิกรรมฐานที่ถูกต้องให้  เพราะคราวก่อนที่เขาลองนั่งเองแม้จะได้เจอกับรวิปรียาบนยามาภูมิ แต่เจอได้แค่อึดใจสมาธิก็หลุด

ภาธรฝึกฝนอยู่หลายวันในที่สุดก็ฝึกสำเร็จ เขาสามารถถอดจิตขึ้นไปหารวิปรียาบนสวรรค์ได้ บรรยากาศบนนั้นสวยงามเหมือนภาพฝัน เห็นเธอยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ไกลสุดลูกหูลูกตา รวิปรียาหันมาเห็นเขาก็แปลกใจถือช่อดอกไม้ค่อยๆเดินมาหา เขามาที่นี่เพราะอยากเจอเธอ อยากรู้ว่าเธอจะลงไปโลกมนุษย์อีกไหม

“ฉันตอบไม่ได้หรอกค่ะ ขึ้นอยู่กับความอยากรู้อยากเห็นของฉัน คุณต้องไปแล้วค่ะ ก่อนที่ท่านพ่อจะรู้”

“เราจะได้เจอกันอีกใช่ไหมครับ ยังมีเรื่องที่ผมอยากรู้ เรื่องสวรรค์ เรื่องมิติ เรื่องของคุณ”

“คุณเกิดมาเพื่อหน้าที่ คุณรักหน้าที่ยิ่งกว่าชีวิต คุณทำหน้าที่ของคุณทุกภพทุกชาติ ออกญาพิชิตแสนพลหน้าที่นักรบปกป้องแผ่นดิน ภาธร อาจารย์ นักค้นคว้ากลับไปทำหน้าที่ของคุณเถอะค่ะ ฉันจะคอยดูอยู่ที่นี่”

“รวิปรียา ผมจะไม่ขอให้คุณคิดถึงผม แต่รู้ไว้นะครับ ผมคิดถึงคุณ”

หญิงสาวยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน ภาธรมองไม่กะพริบตาอยากเก็บภาพนี้ไว้ให้นานที่สุด หมอกควันหนาลอยมาบดบังเธอ ดอกไม้จากในทุ่งปลิวว่อน ภาธรตื่นจากนั่งสมาธิมีลมพัดเบาๆเข้ามาพาดอกไม้ที่เหมือนกับดอกไม้บนยามาภูมิปลิวผ่านหน้า เขาคว้ามันไว้ เงยขึ้นมองบนฟ้า

“ไม่ว่าจะเป็นความจริง ความฝัน หรือความผูกพัน วันหนึ่งเราต้องได้พบกันอีก รวิปรียา”

ooooooo

-อวสาน-

นางทิพย์

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด