ตอนที่ 14
แม้จะไม่ปักใจเชื่อเรื่องผีปิศาจนัก แต่ทรงศิริก็ยอมให้วิวรรณเรียกใช้บริการของหมอผี เนื่องด้วยความงก ท่านจึงถามย้ำแน่ใจหรือว่าวิธีนี้จะได้ผล อย่าให้ต้องเสียเงินฟรี
“รับรองค่ะ เชิญอาจารย์ไปปัดเป่าวิญญาณร้ายที่บ้านหนองพราย เผลอๆผีในตัวคุณปริตตาจะได้ออกไปด้วยไงคะ ครั้งเดียวจบครบทุกโปรโมชัน” วิวรรณน้ำเสียงหนักแน่น ทั้งคู่มัวแต่คุยกันไม่ทันเห็นอรณีแอบฟังอยู่ด้วยสีหน้าไม่สบายใจนักที่ได้ยินชื่อลูกตัวเอง...
เมื่อกลับถึงบ้าน ทินเทพแยกไปคุยกับทัด ปล่อยให้ปริตตาคุยกับภาธรเพียงลำพัง ภาธรอดถามไม่ได้ว่าเธอรู้ใช่ไหมว่ารวิปรียาเป็นใคร นางฟ้าหรือเปล่า เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียกรวิปรียาว่าอะไร แต่ถ้าเขาเชื่อว่า เจ้าฟ้าทิพฉายเป็นวิญญาณ ก็ขอให้เชื่ออีกสักอย่างว่า รวิปรียาไม่เหมือนพวกเรา
เขาอยากรู้ว่าเธอรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร
ปริตตารู้เรื่องนี้เพราะรวิปรียาเป็นเพื่อนของเธอ เราสองคนรู้จักกันตั้งแต่เธอเกิด
“แล้วเขาจะกลับไปเมื่อไหร่ กลับไปที่ที่เขามา กลับไปได้ยังไง” ภาธรถามเป็นชุด
ปริตตาบอกอะไรไม่ได้ มีแต่รวิปรียาเท่านั้นที่รู้ ถ้าภาธรอยากบอกอะไรเธอก็น่าจะรีบพูด หรือเขาไม่ได้คิดอะไรกับรวิปรียา ภาธรนิ่งไม่ตอบ ปริตตาติงจะปล่อยให้เป็นแบบนี้หรือ เขาไม่รู้จะทำอะไรได้ถ้าเธอคิดจะไป ปริตตายุให้ทำอะไรก็ได้ที่เขาจะไม่เสียใจทีหลัง
“เวลาที่เราจะได้อยู่กับคนที่เรารัก มันอาจจะสั้นมาก หนูผ่านเวลาพวกนั้นมา ตอนที่ได้แต่คิดถึงทุกคนตอนที่มองเห็นทุกคนแต่พูด หัวเราะกับใครไม่ได้อีก อยู่กับความคิดถึงมันทรมานมากนะคะ”
ว่าแล้วปริตตาผละออกมา ปล่อยให้ภาธรได้ใช้เวลาคิดทบทวนความรู้สึกของตัวเอง...
ท่ามกลางความมืดของยามค่ำคืน ผีเจ้าฟ้าทิพฉายนอนทอดกายอยู่บนเรือนไทยหนองพราย เรี่ยวแรงที่มีถดถอยแทบไม่เหลือ ร่างกายเริ่มเป็นจุดดำๆไปทั่ว น้ำตาอาบแก้มรอเวลาต้องจากคนรักในอีกไม่ช้า
ooooooo
ในเมื่อผีเจ้าฟ้าทิพฉายใกล้ดับสลาย รวิปรียา จึงหมดหน้าที่ที่ต้องอยู่ในโลกมนุษย์ แวะมาร่ำลาคุณหลวงกับผกาเพื่อกลับบ้านซึ่งอยู่ไกลจากที่นี่มาก คงแวะมาหาบ่อยๆอีกไม่ได้แต่จะคิดถึงทุกคนเสมอ ผกาเสียดาย นึกว่าจะได้คุยกันบ่อยๆ คุณหลวงขอให้ปล่อยเธอกลับบ้านไปไว้เธอคิดถึงเราเมื่อไหร่ก็จะมาหาเอง
“ค่ะ...หนูจะมาหาคุณตา คุณผกา ทินเทพแล้วก็ปริตตา”
พลันมีเสียงภาธรดังขึ้น “แล้วผมล่ะ คุณจะมาหาผมบ้างหรือเปล่า”