ตอนที่ 14
ภาธรไม่สบายใจที่รวิปรียาเข้าใจตัวเองผิดๆ จึงอยากให้ผกากับคุณพ่อช่วยเป็นกาวใจให้เขาได้ปรับความเข้าใจกับเธอ โดยจะรบกวนผกาช่วยนัดเธอมากินข้าว
“ก็อยากจะช่วยนะคะแต่หนูรวิปรียาเพิ่งบอกว่าจะไม่มา เธอพูดลาเหมือนจะไม่เจอกันอีก”
ทินเทพอาสาจะช่วยภาธรเองแล้วหยิบมือถือขึ้นมาโทร. ภาธรทักท้วงว่าโทร.ไปแล้วรวิปรียาปิดเครื่อง แวะไปหาที่ร้านขายของเก่าก็ปิด ไม่รู้จะทำอย่างไรก็เลยต้องมาพึ่งคุณพ่อให้ช่วยติดต่อเธอให้ คุณหลวงไพรัชเอาแต่นั่งอมยิ้มไม่ตอบรับหรือปฏิเสธจะช่วย
“อย่ายิ้มอย่างเดียวสิครับคุณปู่ ช่วยไหมครับ ช่วยอาภาธรเขาหน่อยนะครับ”
คุณหลวงยิ้มขำที่เห็นท่าทางร้อนใจของลูกชาย...
ที่บ้านทรงศิริกำลังร้อนเป็นไฟเกิดเหตุร้ายขึ้นไม่หยุดหย่อน ทันทีชาลีรู้สึกตัวก็ร้องโวยวายว่าอย่าฆ่าตนอย่าขังตนไว้ สารัชกับปริตตาที่เฝ้าอยู่ข้างเตียงต้องช่วยกันดันตัวเขาลงนอน อรณียืนดูอยู่กับทรงศิริปลอบว่าไม่มีใครจะฆ่าท่าน ชาลียืนยันว่ามี มันอยู่ที่เรือนไทย มันเอาตรวนใส่ข้อเท้าตน แล้วดิ้นรนจะลงจากเตียง ทุกคนต้องเข้าไปช่วยกันจับ ท่านยิ่งอาละวาดหนัก ผลักปริตตาหงายหลัง ทรงศิริช่วยปลอบอีกแรงหนึ่งกลับโดนด่า
“แกเป็นใครอย่าสะเออะ ไปเลยไปให้พ้นหน้าฉันเลย...ไป ออกไปให้หมด” ชาลีคว้าของใกล้มือขว้างใส่ ทุกคนหลบกันจ้าละหวั่น...
เสียงโครมครามเสียงของแตกดังออกมานอกห้อง วิวรรณยืนสังเกตการณ์อยู่กับประภาพรรณ ชวนเข้าไปดูเผื่อจะช่วยอะไรได้ ประภาพรรณทนรับแรงกดดันไม่ไหว ประกาศไม่ขอยุ่ง ขอลาออกจากเป็นเลขาฯทรงศิริ วิวรรณตำหนิจะทิ้งไปตอนนี้ได้อย่างไร ท่านมีเรื่องยักยอกเงินสมาคม
“ฉันไม่เกาะขอนไม้ผุๆเน่าๆจมน้ำตายไปด้วยหรอก ถึงเวลาคนเรามันก็ต้องเอาตัวรอดทั้งนั้น” ประภาพรรณหันมาเห็นปริตตายืนฟังอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ก็ไม่ใส่ใจ ประกาศต่อหน้าว่าขอลาออก ไม่อยากยุ่งกับ ครอบครัวขี้โกงแล้วจ้ำพรวดๆออกไป ปริตตาถึงกับหน้าเสีย วิวรรณปลอบว่าไม่ต้องไปฟังคนปากไม่ดี ตนยังอยู่และจะไม่ทิ้งทรงศิริไปไหน แล้วถามว่าข้างในมีอะไรหรือเปล่า
“คุณตาอาละวาดค่ะ แต่คุณพ่อฉีดยาให้หลับไปแล้ว คุณวิวรรณคะ คุณตาไปบ้านหนองพรายมาเหรอคะ”
วิวรรณพยักหน้ารับคำ ท่านไปแล้วกลับมาป่วยแบบนี้ ปริตตาสงสัยท่านไปเจออะไรที่นั่น...
ด้านสารัชเห็นอาการของชาลีน่าเป็นห่วง เกรงจะอาละวาดเล่นงานคนในบ้าน แนะให้ทรงศิริพากลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจะดีกว่า ที่นั่นพร้อมกว่า ป่วยการจะกล่อม ทรงศิริยืนกรานคำเดิมให้รักษาตัวที่บ้าน ทั้งสารัชและอรณีต่างส่ายหน้าด้วยความเซ็ง...