ตอนที่ 13
“เหมคุณฟื้นแล้ว คุณศิถีคะเหมฟื้นแล้ว” เดือนพัตราดีใจน้ำตาไหล ขณะศิถีเจ็บใจที่จัดการเขาไม่ได้...
หมอถูกตามตัวมาตรวจเหมหิรัญญ์หลังจากฟื้นคืนสติ พบว่าอาการดีขึ้นไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง อีกสองสามวันคงกลับบ้านได้ เดือนพัตราดีใจมากเข้าไปกอดเขาไว้แน่น เหมหิรัญญ์พยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้ รู้ดีว่าอาการของตัวเองยังไม่ดีขึ้นมากนัก และยังเป็นกังวลไม่น้อยกับความฝันเมื่อครู่ แถมเสียงเตือนของเรขรุจีที่ว่าในชมพูทวีปไม่มีสิ่งใดที่จะรักษาเขาได้ ต้องกลับไปรักษาตัวที่อุตรกุรุทวีปก่อนจะสายเกินไป
แม้จะรับรู้ถึงคำเตือนนั้น แต่เหมหิรัญญ์ไม่อาจตัดใจทิ้งเดือนพัตราไปได้...
หลังส่งสายสืบลงพื้นที่ มรุตรู้ถึงแหล่งกบดานของทัศน์เทพ ในที่สุดตามไปจับกุมตัวมาได้พร้อมกับแจ้งข้อหาลักพาตัวและทำร้ายร่างกายเดือนพัตรา...
ทางฝ่ายทองมาตย์หนีไปซ่อนตัวที่บ้านกลางสวนยางเปลี่ยว ครุ่นคิดถึงตอนที่ตัวเองยิงเหมหิรัญญ์แต่มีแสงสว่างวาบขึ้นมาจากอันตรามณี และราเมศปรากฏตัวขวางทางปืน กระสุนเข้าเต็มหน้าอกชายแปลกหน้าแต่ไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย เขาอดสงสัยไม่ได้พวกนี้เป็นใครกันแน่ ครุ่นคิดหนักว่าจะทำอย่างไรกับตัวเองดี ตัดสินใจเดินออกจากบ้านแต่ต้องชะงักเมื่อเปิดประตูมาเจอศิถียืนอยู่
เมื่อได้ฟังเรื่องราวจากปากศิถี ทำให้ทองมาตย์รู้ว่าเธอเป็นคนของนายหัววรงค์ เธอสั่งห้ามเขาบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ เขาอยากรู้ว่าเธอมาที่นี่ทำไม ศิถีต้องการแก้แค้นให้นายหัว เขาไม่อยากยุ่งอีกแล้ว แค่นี้ก็หนีตำรวจไม่ไหวแล้ว ศิถีเสนอจะให้สมบัติที่ไม่มีวันใช้หมด เขาหาว่าเธอโกหก
“แกไม่สงสัยเลยเหรอว่าทำไมนายหัวถึงอยากได้บ้านหลังนั้น ทำไมเขาไม่ฆ่าเดือนพัตราเพื่อครอบครองมัน ที่นั่นมีสิ่งที่แกต้องการก็คือทรัพย์สินเงินทองที่ใช้ไม่มีวันหมดและคนที่จะพาแกไปที่นั่นได้ก็คือเดือนพัตรา”
“มันก็อาจจะจริงอย่างที่คุณพูดเพราะคืนนั้นผมก็ได้เจอกับเรื่องน่าเหลือเชื่อ...ตกลงผมร่วมมือกับคุณ”
ooooooo
มรุตแวะไปหาแก้วเพชรที่บ้านเพื่อขอสอบปากคำ เกี่ยวกับคดีนายหัววรงค์ ท่านยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ จะไม่ปิดบังเรื่องชั่วๆที่ผัวตัวเองทำไว้ วโรชาลงมาเจอพอดี เสียงเขียวใส่เขามาทำอะไรที่นี่ มรุตแจ้งว่ามาสอบปากคำแก้วเพชรเรื่องนายหัววรงค์ เธอเตือนแม่ไม่ให้พูดอะไรทั้งนั้น ควรให้ทนายเป็นคนจัดการ