ตอนที่ 13
“ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ ฉันพูดความจริง พ่อแกมันเลวแล้วก็ไม่ได้เลวแค่กับคนอื่นแต่มันเลวกับฉัน แกก็เห็น”
“คุณแม่คะ นี่ไม่ใช่เวลาที่คุณแม่คิดจะมาแก้แค้นคุณพ่อนะคะ...พี่มรุตกลับไปก่อนเถอะค่ะวันนี้คุณแม่คงไม่สะดวกให้สอบปากคำอะไรทั้งนั้น”
ในเมื่อถูกไล่มรุตจำต้องขอตัวกลับก่อนแต่คงต้องเชิญสองแม่ลูกไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ วโรชาไม่มีอะไรให้ต้องสอบจะเรียกไปทำไม เขามีคดีของกมลทิพย์ที่เธออาจเกี่ยวข้อง วโรชาถึงกับอึ้ง...
วโรชารอจนมรุตกลับไปที่รถ วิ่งตามมาถามว่าเรื่องสอบปากคำเกี่ยวกับคดีกมลทิพย์หมายความว่าอย่างไร เขาเพิ่งได้หลักฐานมาใหม่ว่าเธออยู่ที่นั่นใน
วันที่กมลทิพย์เสียชีวิต วโรชาหาว่าเขากลั่นแกล้งตั้งใจจะจับเธอเข้าคุกหวังจะทำลายครอบครัวของเธอ
“ถ้าคุณแหวนคิดให้ดีและมีเหตุผลมากพอคุณแหวนก็น่าจะรู้นะครับว่าผมไม่เคยคิดจะทำอะไรนอกเหนือกฎหมาย” พูดจบมรุตขึ้นรถขับออกไป...
ในเวลาต่อมาศิถีกับวโรชาเจอกันที่หน้าห้องไอซียู โดยบังเอิญ เห็นฝ่ายแรกน้ำหูน้ำตาร่วงก็แปลกใจร้องไห้ทำไม น่าจะดีใจมากกว่าที่เจ้านายของตัวเองปลอดภัยและพ่อของเธอมานอนเจ็บปางตายแบบนี้ แต่ที่ทำให้วโรชางงหนักก็เป็นตอนที่ศิถีบอกให้เธอรีบหาทางแก้แค้นกับคนที่ทำให้นายหัวต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้
ooooooo
มรุตยังคงเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่ผาเชิงทะเลมาสอบปากคำอย่างต่อเนื่องแต่ไม่ได้อะไรมากนัก ครั้นนำตัวทัศน์เทพมาสอบสวน เขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
“คุณก็น่าจะรู้ผมเป็นคนมอบหลักฐานเกี่ยวกับนายหัวให้กับคุณ”...
ส่วนคดีการตายของกมลทิพย์ วโรชาปฏิเสธเช่นกันว่าไม่ได้เป็นคนฆ่าและไม่มีส่วนกับการตายอีกด้วย ในเมื่อไม่มีหลักฐานพอให้ควบคุมตัว มรุตจึงต้องปล่อยเธอไป แล้วเสนอตัวจะเดินไปส่งเธอที่รถ แต่เธอร้องห้ามไว้
“อย่าเลย ฉันเป็นผู้ต้องสงสัย ผู้กองเป็นตำรวจ เดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจผิด”
ครู่ต่อมาวโรชากลับมาที่รถตัวเองด้วยความโมโห ระบายอารมณ์แค้นด้วยการทุบพวงมาลัยรถอย่างบ้าคลั่ง มีเสียงเตือนว่ามีข้อความเข้ามาในมือถือ เธอเปิดอ่านแล้วรีบร้อนขับรถออกไป ไม่นานนักวโรชามาถึงสถานที่ตามนัด เจอศิถีรอท่าอยู่ก่อนแล้ว ถามเสียงเครียดว่านัดให้ มาหาทำไม ศิถีแค่อยากชวนให้มาร่วมมือกันหาทางแก้แค้นให้นายหัว วโรชาแปลกใจ ทำไมเธอถึงอยากแก้แค้นให้พ่อของตน
“เรื่องนั้นรอพ่อของคุณฟื้นก่อนแล้วคุณถามท่านเองดีกว่า ฟังจากปากฉันคุณอาจไม่เชื่อก็ได้ แต่ที่คุณมานี่แสดงว่าคุณอยากแก้แค้นใช่ไหม”
“ถึงฉันอยากจะทำขนาดไหนแล้วฉันจะทำอะไรได้มีแต่คนคอยปกป้องมันทั้งนั้น แม้แต่พี่มรุตยังปกป้องมันมากกว่าฉันเลย” วโรชาถอนใจเซ็ง ศิถีเดินเข้าไปใกล้ๆ พร้อมกับแนะว่าจะให้จัดการมันซึ่งหน้าตอนนี้คงไม่มีทาง ดังนั้นต้องใช้วิธีลอบกัดไม่ให้มันรู้ตัว...