ตอนที่ 13
“ไม่ว่าคุณจะทำไม่ดีกับฉันแค่ไหน ฉันก็ปล่อยให้คุณตายไปโดยที่ฉันไม่ช่วยอะไรคุณเลยไม่ได้หรอกนะ คุณต้องรอด” เดือนพัตรารวบรวมกำลังเท่าที่มีพยายามดึงหันตราขึ้นมา ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีประดังเข้ามาในจิตใจของหันตรา แต่ก็สายเกินไปมือที่ยึดเดือนพัตราไว้เริ่มหมดแรง ค่อยๆเลื่อนหลุด
“อโหสิกรรมให้ฉันด้วย” พูดได้แค่นั้น มือหันตราหลุดจากมือเดือนพัตราที่พยายามคว้ามือเธอไว้แต่ไม่ทัน ร่างของเธอร่วงลงไปยังหน้าผาเบื้องล่าง ฝ่ายนายหัววรงค์แม้จะได้รับบาดเจ็บแต่กลับเล่นงานอรุณล้มคว่ำแล้ว
ตรงไปกระชากผมเดือนพัตราสั่งให้พาไปที่อุตรกุรุทวีป ก่อนเธอจะเสียทีไปมากกว่านี้ เหมหิรัญญ์กับปริทัศน์เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
ooooooo
เหมหิรัญญ์ต่อยนายหัววรงค์หงายเงิบ แล้วสั่งให้ปริทัศน์กับอรุณที่เพิ่งฟื้นคืนสติพาเดือนพัตราหนีไปก่อน เธอไม่ยอมไปถ้าไม่มีเขาไปด้วย
“ผมบอกให้ไปไง” เหมหิรัญญ์ตวาดเสียงเข้ม
นายหัววรงค์ลุกขึ้นมาเล่นงานเหมหิรัญญ์ ขณะที่อีกด้านหนึ่งทองมาตย์กับสมุนโผล่เข้ามา ปริทัศน์กับอรุณลากเดือนพัตราหลบออกไปได้ทัน เหมหิรัญญ์
ถูกคนร้ายล้อมไว้ นายหัววรงค์จะตามเดือนพัตรา
แต่เหมหิรัญญ์ขวางไว้ บนท้องฟ้าดวงจันทร์ถูกเงาของโลกบดบังเหลือเพียงเสี้ยวเดียว...
ขณะที่เหมหิรัญญ์ตกอยู่ในวงล้อมของศัตรูในชมพูทวีป เรขรุจีซึ่งอยู่ในอุตรกุรุทวีปรับรู้ได้ว่าเขากำลังมีภัยจัดแจงหลบเข้าไปในหอแก้วจะขโมยอันตรามณีหนีไปชมพูทวีปเพื่อช่วยเขา แต่ราเมศมาขวางไว้ เธอคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้ราเมศไปช่วยเหมหิรัญญ์ด้วย
“เราขอร้องท่านราเมศ ท่านก็รู้ว่าถ้าช้าไปกว่านี้ เหมหิรัญญ์อาจจะไม่กลับมาและอายุขัยของเหมจะหมดลงตามกาลของชมพูทวีป ท่านอยากให้เป็นเช่นนั้นหรือ เหมกำลังตกอยู่ในอันตราย ท่านก็รู้ว่าเหมกำลังเจอกับสิ่งใด ท่านไม่คิดจะช่วยจริงๆเช่นนั้นหรือ”
ราเมศไม่สนใจเดินหนี เรขรุจีตามมาคว้ามือเขาไว้สีหน้าแววตาอ้อนวอนสุดใจ...
ในเวลาเดียวกันที่ชมพูทวีป เหมหิรัญญ์ต่อสู้กับนายหัว ทองมาตย์กับพวกอย่างสุดกำลัง เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบเล่นงานสมุนร่วงไปทีละคนๆ นายหัวสังเกตเห็นว่าครั้งนี้เขาดูไม่มั่นใจในการต่อสู้เหมือนครั้งก่อนๆ ก็พอจะเดาเหตุการณ์ออก
“คืนเดือนดับ เป็นเรื่องจริงสินะ วันนี้แกไม่มีทางเอาชนะพวกฉันได้ไอ้เหม” ว่าแล้วนายหัวพยักพเยิดให้ ทองมาตย์ซึ่งรู้งานสั่งการให้สมุนจัดชุดใหญ่ให้เขา สมุนสองคนดาหน้าเข้าใส่กลับถูกเหมหิรัญญ์อัดกระเด็นล้มคว่ำไม่เป็นท่า สมุนอีกสองคนลุยเข้าหาเขาอีก เขาก็จัดการได้อย่างไม่ยากเย็น แต่กลับรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ไม่แสดงอาการอะไรให้ศัตรูเห็น...