ตอนที่ 13
วโรชากลับมาเจอเรื่องหงุดหงิดที่บ้านเมื่อได้ยินแม่พยายามแก้ตัวกับพวกคุณหญิงคุณนายในสมาคมสตรีรุมิหราว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่สามีทำ เธอรอจนท่านวางสายจึงต่อว่าว่าทำแบบนี้ได้อย่างไร ทั้งที่พ่อนอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาลแต่แม่ดันห่วงเรื่องตำแหน่งในสมาคมฯไม่ได้สนใจพ่อแม้แต่น้อย
“ฉันจะสนใจมันทำไม มันเกือบทำลายชีวิตฉันป่นปี้หมดแล้ว คนเลวๆอย่างมันตายไปซะได้ก็ดี แกก็ไม่ต้องไปอาลัยอาวรณ์มันมากนักหรอก”
“แม่ นั่นมันสามีแม่ พ่อของแหวนนะ แม่พูดแบบนี้ได้ยังไง”
แก้วเพชรตวาดแว้ดทำไมจะพูดไม่ได้ มันทำตนเจ็บขนาดไหนลูกไม่รู้หรืออย่างไร วโรชาไม่อยากต่อปาก ต่อคำกับแม่เดินเลี่ยงขึ้นห้อง และยังคงโทษเดือนพัตราว่าเป็นต้นเหตุให้ครอบครัวของตัวเองแตกแยก...
ด้านเดือนพัตราเป็นกังวลมากขึ้นเมื่อเหมหิรัญญ์เป็นไข้จากแผลถูกยิงอักเสบขึ้นมาอีก หวนคิดถึงคำพูดของเรขรุจีในคืนที่ผาเชิงทะเลตอนที่เธอกับราเมศมาช่วยเหมหิรัญญ์
“เราช่วยท่านไม่ได้ในเวลานี้ ท่านต้องกลับไป เราไม่มีเวลาแล้ว เราต้องพาเหมหิรัญญ์กลับไปยังอุตรกุรุทวีป”
เหมหิรัญญ์เห็นเดือนพัตรานิ่งเงียบร้องถามว่ามีอะไรหรือเปล่า เธอตื่นจากภวังค์ย้อนถามเขาว่าเธอรักษาเขาได้ใช่ไหม เขาไม่อยากให้เธอเป็นกังวลจึงโกหกว่ารักษาได้ มนุษย์ทั่วไปเวลาป่วยยังรักษาให้หายได้เลย เขาซึ่งแข็งแรงกว่าทำไมจะไม่หาย เธอมองเขาอย่างจับผิด “แต่เรขรุจีบอกว่า...”
“เรขรุจีไม่เคยป่วย เขาไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นยังไงจริงไหม ของบางอย่างมันก็ต้องใช้เวลานะ ผมอาจจะต้องนอนพักนานหน่อย แต่ได้นอนอยู่ใกล้คุณแบบนี้ผมหายแน่ๆ” พูดจบเหมหิรัญญ์นอนหนุนตักเดือนพัตราซึ่งบอกให้เขาลุกขึ้นนอนดีๆ เขาทำเป็นไม่สนใจ
“ไม่ลุก นอนแบบนี้สบายดี หลับแล้วนะ พรุ่งนี้ตื่นมาผมหายแน่ๆ” ว่าแล้วเขาแกล้งหลับตา แต่ในใจเป็นกังวลอย่างหนักกับเรื่องร่างกายตัวเองที่ไม่หายสักที
ooooooo
วโรชานำของเยี่ยมทั้งผลไม้และเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพมาเยี่ยมเหมหิรัญญ์ถึงบ้าน หวังจะให้ตัวเองมีพยานอ้างอิงที่อยู่ได้ เดือนพัตราไม่อยากทำให้เธอเสียใจ จำใจรับของเยี่ยมเอาไว้ เหมหิรัญญ์พยายามเพ่งมองเพื่อให้เห็นจิตใจของเธอ แต่ไม่สามารถเห็นอะไรได้เนื่องจากร่างกายของเขาอ่อนแอเกินไป
“คุณเหมมีอะไรหรือเปล่าคะจ้องแหวนขนาดนี้ แหวนมีอะไรประหลาดเหรอคะ”