ตอนที่ 1
แต่ไม่ทันพ้นโค้งข้างหน้าก็เห็นทหารซาอูตั้งด่าน อกานซิงห์ คำพูน และกาวินจึงต้องสละรถแล้วนำทางเจ้าหลวงกับมหาเทวีเดินเท้าเข้าป่า โดยที่ทหารเมืองจายในรถอีกคันคอยยิงคุ้มกัน แต่ไม่นานพวกเขาก็โดนทหารซาอูยิงตายหมด ส่วนพวกอกานซิงห์ไม่ตอบโต้ ดั้นด้นพาเจ้าหลวงกับมหาเทวีหนีรอดไปได้
เมื่อซาบีกับปาแปงทหารของซาอูกลับมารายงาน นายพลอังกูไม่พอใจอย่างมาก แต่ยังหวังว่าอันโตนจะได้ตัวองค์หญิงแสงจันทามา หากมีองค์หญิงอยู่ในกำมือ ต่อให้สองคนนั้นกบดานอยู่ที่ไหน ยังไงก็ต้องออกมา
แต่ในเวลานั้นอันโตนกับจ่อเอก็ยังตามหาเจ้าแสงจันทาไม่เจอ คิดว่าคงเป็นชายหน้าดำมาช่วยไป แต่ถึงยังไงพวกเขาก็ไม่ถอดใจ ต้องเอาตัวองค์หญิงไปให้นายพลอังกูให้ได้...
พสุใช้เข็มทิศนำทางเจ้าจ้อยที่เขาเข้าใจว่าเป็นนางกำนัลเดินป่าตั้งแต่กลางวันยันเย็น ถึงหนทางในป่าจะชันจะลำบากลำบน เจ้าจ้อยก็เดินตามอย่างไม่ปริปากบ่น
แต่แล้วเจ้าจ้อยก็หยุดเดินในมุมหนึ่ง หันไปมองเบื้องหลังที่เห็นเมืองจายอยู่ลิบๆท่ามกลางป่าและเขาจากมุมสูง พสุคิดว่าเธอเหนื่อยจึงจะให้หยุดพักสักหน่อย
“เฮาขอเวลาไม่นานหรอก ขอมองเมืองจายให้เต็มตา ก่อนจะมองไม่เห็นอีก...ไม่รู้เมื่อไหร่เฮาจะได้กลับมาอีก เมืองจายบ้านเกิดเมืองนอนของเฮา ขอให้วิญญาณปู่ย่าตายาย บรรพบุรุษ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเมืองช่วยคุ้มครองลูกหลานชาวเมืองจายด้วยเถอะเจ้าค่า อย่าให้ทหารซาอูมันทำร้ายปล้นฆ่า เผาบ้านเรือนจนสิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน เฮาสัญญาว่าสักวันนึง เฮาจะกลับมาพร้อมเจ้าหลวงและมหาเทวี กอบกู้เมืองจาย”
เจ้าจ้อยสะอื้น ก่อนจะกลับมาฮึดเข้มแข็ง ปาดน้ำตาอำลาบ้านเกิด พสุยืนมองอย่างเห็นใจ
“เฮาพร้อมจะเดินทางต่อแล้ว ต้องขอโทษที่ทำให้เสียเวลา”
“ไม่ต้องรีบร้อนหรอกครับ ผมยังมีเวลาให้คุณร่ำลาบ้านเมืองคุณอีกสองสามนาที”
“อำลาแค่นาทีเดียวก็มีค่าพอแล้ว อีกสองสามนาที เฮาจะเก็บไว้เดินหน้าต่อไป”
พสุรับรู้ถึงความเข้มแข็งในร่างที่บอบบาง “ถ้างั้นไปต่อกันเถอะครับ เราต้องไปถึงจุดนัดพบให้เร็วที่สุด”
เจ้าจ้อยมองตามหลังพสุแล้วรู้สึกดี แม้ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่เขาทำให้เธออุ่นใจ ทั้งคู่เดินต่อไปจนพลบค่ำก็หยุดใต้ต้นไม้ใหญ่ริมธารน้ำตก
“คืนนี้เราจะพักค้างแรมกันริมลำธารนี่ครับ”
พสุพูดพลางปลดเป้ที่หลังลง เจ้าจ้อยทรุดนั่งบนรากไม้อย่างแสนเหนื่อย แอบบีบเข่าที่ปวดอยู่ แต่ไม่บ่นสักคำ
“ถึงกับเข่าอ่อนหมดแรงเลยคุณ”
“ก็คุณเดินจ้ำเอาๆ ไม่หยุดพักเลย”
“ผมไม่เห็นคุณบ่นว่าเหนื่อยสักคำ ผมก็นึกว่าคุณไหว เลยไม่ได้หยุดพักให้”
“คุณไม่ถาม ใครจะบอกได้อย่างไร แต่เอาเถอะ เราคงพูดกันคนละภาษา เลยสื่อสารกันไม่เข้าใจ”
“แต่ผมไม่คิดว่าเราพูดกันคนละภาษานะครับ ผมกลับรู้สึกว่า...ภาษาที่คุณพูดต่อว่าผมอยู่ตอนนี้ เหมือนๆ ภาษาไทยที่ผมพูดเลย”
“คุณเป็นคนไทยอย่างนั้นหรือ ก็ไหนคุณบอกว่าอเมริกาส่งคุณมาช่วยเฮา”