ตอนที่ 1
“มีเงาภูตพรายในตัวมัน มันเล่นของ!” พสุตัดสินใจในวินาทีนั้น ดึงตะกรุดหนังเสือที่ใส่อยู่กับเอวจนขาดมาคาบไว้ที่ปาก แล้วจับสองไหล่หญิงสาวดึงพาดำลงใต้น้ำอย่างเงียบกริบ
อันโตนยืนจ้องกวาดตามองอยู่สักพักใหญ่ พลังภูตพรายพยายามช่วยให้มองลึกลงไปใต้น้ำ แต่อานุภาพตะกรุดหนังเสือที่ช่วยกันผีและแคล้วคลาดช่วยพรางตา ทำให้อันโตนและภูตพรายมองไม่เห็นพสุกับเจ้าจ้อยอยู่ใต้น้ำ
เจ้าจ้อยเริ่มมีอาการอึดอัดจากการกลั้นหายใจ แต่พสุช่วยด้วยการกระดิกนิ้วตบไปที่ไหล่ทั้งสองข้างของเธอเบาๆ เจ้าจ้อยรู้สึกอุ่นใจ ผ่อนคลายลง
ทหารซาอูพากันเดินเข้ามารายงานอันโตนว่าหาจนทั่วไม่เจอองค์หญิง
“ผู้หญิงตัวนิดเดียว มันจะหนีอะไรได้เร็วขนาดนี้วะ...หรือว่าไอ้เวรนั่นมาช่วยไป มันโผล่มาจากไหนวะ รีบกระจายกันไปตามหาให้ทั่ว อย่าให้องค์หญิงหนีพ้นเขตเมืองจายไปได้เด็ดขาด ไป!”
ทหารพากันวิ่งพล่านตามคำสั่ง ขณะที่อันโตนรีบเดินผละไปดูที่ริมบึงอีกทาง
พสุประคองเจ้าจ้อยขึ้นจากน้ำที่ริมบึงอีกฟากหนึ่งอย่างเงียบๆ เจ้าจ้อยอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัดจากการกลั้นหายใจใต้น้ำนานเกินไป
“คุณ! เป็นอย่างไรบ้าง ได้ยินผมไหม ตอบผมสิครับ คุณๆ” พสุใช้มือข้างหนึ่งบีบๆตบๆไปที่คางหญิงสาวเพื่อเรียกสติ
“คุณจะบีบคางเฮาให้แตกหรืออย่างไร”
“ผมเห็นคุณนอนนิ่ง นึกว่าคุณเป็นอะไรไปน่ะสิครับ ผมเลยต้องรีบปลุก”
“เฮาเหนื่อยมาก หายใจไม่ทัน ขอเฮานอนพักไม่ได้หรือ” พูดไปแล้วชะงัก เพราะเพิ่งสังเกตว่าเขาคร่อมร่างตนอยู่ แม้ไม่ถูกเนื้อต้องตัวแต่เจ้าจ้อยก็ดันอกเขา “คุณลุกขึ้นไปได้แล้ว เฮาไม่เป็นอะไร”
พสุผละออกแล้วปลดขวดน้ำทหาร เปิดขวดส่งให้ “กินน้ำหน่อยสิคุณ จะได้รู้สึกดีขึ้น”
เจ้าจ้อยลุกขึ้นนั่ง ลังเลที่จะรับขวดน้ำ
“ไม่มียาพิษหรอกคุณ แต่ถ้าคุณไม่หิวน้ำก็ไม่ต้องกิน ไม่มีใครบังคับ”
เจ้าจ้อยงอนนิดๆ รับขวดน้ำมาดื่มอั้กๆ ขณะที่พสุนั่งดูลาดเลาด้วยกล้องส่องทางไกลไปที่ริมบึงฝั่งตรงข้าม เห็นอันโตนกับทหารซาอูยังเดินหาอยู่
“กินเสร็จหรือยังคุณ รีบกินรีบไปให้พ้นจากบึงนี่ พวกมันหาฝั่งโน้นไม่เจอ เดี๋ยวคงต้องมาหาฝั่งนี้”
“เฮาคืน ขอบน้ำใจคุณที่แบ่งปันน้ำให้ดื่ม”
สองคนออกเดินทั้งที่เจ้าจ้อยเจ็บแปลบที่ขา แต่ก็อดทนเพราะไม่ต้องการให้ชายแปลกหน้าถูกเนื้อต้องตัว
“ทหารคนนั้นไม่ธรรมดา เฮาเห็น เหมือนมีวิญญาณร้ายอยู่ในตัวเขา”
“ผมเห็นแล้ว ว่ากันว่าทหารซาอูชอบเล่นของเพื่อเสริมความแก่กล้าเวลาออกรบแบบกองโจรกับศัตรู ผมเพิ่งเจอกับตัวนี่แหละ โชคดีที่ผมมีของดีจากพระอาจารย์ที่เป็นพระอุปัชฌาย์ให้ผมตอนไปบวชก่อนไปเป็นทหาร” พสุพูดพลางล้วงตะกรุดที่ใส่ไว้ในอกเสื้อออกมา
“เขาเรียกว่าอะไร”
“ตะกรุดหนังเสือ ช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย”
เจ้าจ้อยพยักหน้ารับรู้ แล้วจู่ๆนึกถึงอ่อนคำขึ้นมาได้ หยุดเดินทันที พสุเก็บตะกรุดใส่กระเป๋าเป้แล้วหันมาเห็น