ตอนที่ 12
“ก็คงจะรู้...ป้าเองก็ไม่รู้จะช่วยขุนสักยังไง ตอนนั้นขุนสักก็คงคิดอย่างง่ายๆตามประสาผู้ชาย เรื่องจบไปแล้ว ต่างคนต่างไป หารู้ไม่ความแค้นของคนถูกกระทำมันไม่มีทางจบง่ายๆ”
“ใช่เจ้าค่ะ...ผู้ชายลืมแต่ผู้หญิงจำความเจ็บ เก็บความแค้น ชั่วชีวิตไม่มีวันลืม”
“เป็นความผิดของป้าเอง ป้าเพาะบ่มความเกลียดชังไว้ในหัวใจแม่เทียนจนฝังลึกเกินจะถอน ก็ได้แต่ภาวนา...ขอบารมีแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์นำพาครอบครัวเราให้พ้นวิกฤติเวรกรรมแห่งความชั่วร้าย ขอให้แม่เทียนตัดกรรมได้ในเร็ววัน จะได้ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวพัวพันกับครอบครัวของขุนสักอีก...สาธุ”
ขุนสักยังไม่ได้กลับบ้าน สภาพขะมุกขะมอมและสะบักสะบอมเพราะโดนพวกชาวบ้านทุบตีโทษฐานไล่ปล้ำผู้หญิงไปทั่ว คุณเทียนแอบตามผลงานตัวเองด้วยความสะใจ พึมพำเสียงเหี้ยม
“มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น แกได้อับอายขายขี้หน้ามากกว่านี้แน่ไอ้ขุนสัก!”
ooooooo
จงกับจำปีทำตามที่โมกต้องการ หอบสินสอดมากมายไปสู่ขอพวงแสดกับพวงชมพูอีกรอบพร้อมฤกษ์แต่งงาน ชบาตื่นเต้นมาก ดวงตาเป็นประกายเมื่อเห็นสินสอด รีบตอบตกลงโดยไม่เอะใจหรือสงสัยแม้แต่นิดเดียว
อังกาบเสียอีกติดใจท่าทางแปลกๆของพ่อแม่มิก คาใจมากที่มิกยอมรับพวงแสดกับพวงชมพูเป็นเมียทั้งที่เห็นและรับรู้มาตลอดว่าสองสาวตีกันเพื่อแย่งเขา กระนั้นก็ค้านอะไรไม่ได้เพราะชบาตอบตกลงด้วยความเต็มใจ
จงกับจำปีออกจากบ้านอังกาบมาได้ก็กระชากเสื้อผ้าแบบเจ้าขุนมูลนายออก เหลือแค่เสื้อผ้าแบบชาวบ้านธรรมดา สีหน้าอึดอัดใจเพราะแม้จะได้ค่าจ้างดีจากโมกแต่ก็ไม่วายรู้สึกผิด
“อยากรู้จริงๆว่าครอบครัวของแม่ชบาไปทำอะไรให้ใคร เขาถึงได้โกรธแค้นกันถึงเพียงนี้”
“ก็คงต้องเป็นเรื่องสาหัสสากรรจ์แหละพี่จง ถึงได้อยากให้อับให้อายกันไปเจ็ดชั่วโคตร”
“เสร็จงานนี้ฉันชักไม่อยากทำชั่วแล้วว่ะจำปี ฉันกลัวบาปกรรมมันจะตามสนองเราคืนเข้าสักวัน”
“ฉันก็กลัว ถึงจะไม่เจตนาแต่มันก็คือการหลอกลวงให้เขาพบกับความวิบัติ ไม่ทำดีกว่านะแกนะ ลำพังเป็นขี้ยา ชีวิตก็เส็งเคร็งเต็มทีแล้ว อย่ากลายเป็นคนหลอกลวงอีกเลย”
ชบาไม่ได้สนใจใคร แม้แต่ลูกสาวสองคนที่นั่งหน้าหงิกด้วยความไม่พอใจที่ถูกจับแต่งงานให้มีผัวคนเดียวกัน อังกาบเห็นแล้วทนไม่ไหว โพล่งเตือนสติชบาให้คิดเรื่องอื่น อย่างเช่นเรื่องขุนสักที่ไม่กลับบ้านหลายคืนแล้ว
“ช่างมัน! ตอนนี้ฉันมีแก้วแหวนทองหยอง ท่านขุนจะไปไหนก็ช่างหัว”
Powered by Froala Editor