ตอนที่ 15
หลังทั้งสองฝ่ายนำสืบพยานเสร็จ ทนายจำเลยก็ขอยื่นคำร้องปล่อยตัวจำเลยชั่วคราว อัยการคัดค้าน เพราะชลิตามีคดีทำร้ายร่างกายศุภวาทที่ยังอยู่ในศาลอุทธรณ์ จำเลยได้ประกันตัว จึงมีโอกาสทำร้ายเด็ก โจทก์เห็นว่าจำเลยเป็นบุคคลอันตรายต่อผู้อื่น ทนายโจทก์กล่าวสำทับ
“อีกทั้งจำเลยมีบ้านที่ต่างประเทศ หากปล่อยตัวชั่วคราว จำเลยต้องหนีออกนอกประเทศ”
“จำเลยมีบริษัทที่เมืองไทย ถือเป็นภาระผูกพัน ไม่หนีออกนอกประเทศแน่นอนครับท่านเจ้าของสำนวน” ทนายจำเลยค้าน
ทนายโจทก์จึงขอเบิกตัวพยานคือศุภวาทขึ้นให้การว่า บิดาจำเลยได้ขายบริษัทให้แก่ตน และจำเลยยังกล่าวกับตนอีกว่าจะย้ายไปอยู่อเมริกาไม่กลับเมืองไทย เธอถือสัญชาติอเมริกัน...ชลิตาหน้าเสีย ศุภวาทมองปรีชาอย่างเกรงใจที่ให้การออกไป
ผู้พิพากษาออกคำตัดสิน “ตามที่โจทก์นำสืบพยานมา พิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยมีพฤติการณ์จะหลบหนีไปอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา ประกอบกับจำเลยมีคดีอยู่ระหว่างพิจารณาถึงสองคดี หากปล่อยตัวชั่วคราว เชื่อว่าจำเลยต้องหลบหนี จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ยกคำร้อง”
ชลิตาตื่นตระหนก อัสดมตกใจที่เธอต้องติดคุก ผู้พิพากษานัดฟังคำพิพากษาครั้งต่อไป...ตำรวจศาลเข้าคุมตัวชลิตาทันที ปรีชา อัสดมและโสภาต่างทำอะไรไม่ถูก รับสถานการณ์นี้ไม่ทัน ถวิการู้สึกผิดและเสียใจ ศุภวาทเห็นใจ มีเพียงรัชดาที่พึงพอใจ
ทุกคนยืนรอ เห็นผู้คุมพาพวกนักโทษหญิงที่ถูกใส่กุญแจมือเดินออกมา ชลิตาเดินรั้งท้าย ทุกคนเวทนาชะตากรรมของเธอ แม้แต่รัชดาที่อยากเห็นชลิตาติดคุก อัสดมร้องเรียกเมียรัก เจ้าหน้าที่กันไม่ให้เข้าใกล้ ชลิตานิ่งไม่หันมอง แต่พอได้ยินเสียงพ่อกับโสภา เธอหันมองน้ำตานองหน้า อัสดมรีบบอกว่าจะช่วยเธอออกมาให้ได้ ชลิตาไม่ฟังเดินขึ้นรถผู้ต้องหาทันที อัสดมเสียใจทรุดลงพร่ำขอโทษแม้เมียรักจะไม่แล
ooooooo
ถวิกากับศุภวาทยืนรอรัชดาที่จูงจีน่ากลับ ถวิกาหน้าตาสำนึกผิดขอไปเยี่ยมสาทินี รัชดากลับสวนว่า พี่เขาทำร้ายพี่เธอ ตอนนี้ก็ชดใช้แล้ว เธอควรจะพอใจเสียที ถวิกาน้ำตาคลอ
“ฉันลืมความแค้นแล้วค่ะ ตอนนี้...ฉันอยากแก้ไขสิ่งที่ฉันทำ”
“สิ่งที่คุณทำมันแก้ไขไม่ได้!”
“คนป่วยสภาพจิตใจสำคัญมาก ผมว่าพี่สาวคุณมีเรื่องค้างคาใจอยากคุยกับวาว” ศุภวาทเอ่ยปาก ทำให้รัชดาเกรงใจไม่โต้แย้ง แต่มองถวิกาอย่างไม่พอใจ
ที่ลานจอดรถ อัสดมบอกปรีชาว่าจะช่วยกันเอาชลิตาออกจากคุก ปรีชาเหน็บ
“อัสทำมาพอแล้วล่ะ ทำร้ายตามาพอแล้ว! พ่อขอให้อัสออกจากชีวิตลูกสาวพ่อ!”