ตอนที่ 9
“แต่ฉันไม่ใช่สิ่งของที่จะยกให้ใครก็ได้นะพี่ผจง”
“เอ็งพูดแบบนี้ในชุมโจรภูพยัคฆ์ไม่ได้หรอก เอ็งก็รู้ว่าทุกชีวิตที่นี่อยู่ในมือเสือผัน”
“แต่ฉันไม่อยากเป็นเมียไอ้เสือเฒ่าตัณหากลับนั่น ฉันเกลียดมัน เกลียดตั้งแต่มันลวนลามฉันตอนเป็นเด็กแล้ว ฉันจำมันได้ดี ตอนที่ยังไม่แตก เนื้อสาว เวลามันแวะมาหาพ่อเสือผัน มันชอบมาอุ้มฉัน พยายามล่วงเกินฉัน จะลากฉันเข้ารกเข้าพงให้ได้ พอฉันโวยวายมันก็บีบคอขู่จะฆ่าฉัน”
“มันทำกับเอ็งอย่างนั้นจริงๆเหรอกระเช้า”
“ก็ใช่น่ะสิ ฉันกลัวก็เลยไม่เคยเล่าให้ใครฟัง พี่ผจง...พี่ช่วยได้มั้ย ฉันไม่อยากแต่งงานกับมัน พี่ช่วยฉันได้มั้ย”
กระเช้าอ้อนวอนทั้งน้ำตา ผจงนิ่งไปด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“ให้ฉันกราบก็ได้ พี่จะให้ฉันทำอะไรฉันยอมทุกอย่าง ขออย่างเดียวช่วยให้ฉันไม่ต้องเป็นเมียมันนะพี่ผจง”
“เอ็งก็รู้ว่าคำสั่งของพ่อเสือผันเด็ดขาดขนาดไหน ใครขัดคำสั่งก็คือตาย”
“งั้นฉันจะฆ่าตัวตายให้มันรู้แล้วรู้รอดไป” กระเช้าจะเดินหนีแต่ผจงรีบคว้าแขนไว้
“เดี๋ยว...ข้าไม่ให้เอ็งคิดสั้นอย่างนั้นหรอก”
“ถ้าพี่ช่วยฉันไม่ได้ก็ไม่ต้องห้าม”
“ใครว่าข้าช่วยเอ็งไม่ได้ ข้ามีวิธี แต่เอ็งต้องรับปากว่าจะหุบปากเงียบ เพราะเรื่องที่ข้าจะทำมันอาจทำให้ทั้งข้าทั้งเอ็งถูกพ่อเสือผันฆ่าทิ้งทันทีที่รู้”
กระเช้านิ่งทันใด จ้องมองผจงอย่างสนใจใคร่รู้
ooooooo
เวลานั้นภูผาไม่อยู่ชุมโจร เขาเข้าไปในป่าเพื่อตามหาหลวงปู่ ครั้นถึงบริเวณที่ท่านเคยปักกลดกลับไร้วี่แวว มีเพียงผ้าประคดเปื้อนเลือด ทำให้อดเป็นห่วงท่านไม่ได้
ส่วนที่ร้านกาแฟในไพรวารี ก้องใส่หมวกปีกกว้างนั่งกินโอเลี้ยงรอใครบางคนโดยไม่รู้ว่าตัวเองโดนรุ่งสะกดรอยตามมาหลบมุมแอบมองอยู่ไม่ไกล บ่นงึมงำสงสัยว่าภูผาให้ก้องมาทำอะไรท่าทางลับๆล่อๆ สักครู่เด็กชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาก้อง
“ว่าไง เจอมั้ย” ก้องถาม
“ไม่เจอ...ถามตำรวจบนโรงพักแล้ว ยังไม่กลับมาเลย”
“อะไรวะ ทำไมรอบนี้ไปนานนักวะ”
เด็กชายไม่สนใจอย่างอื่น นอกจากแบมือขอเงินค่าจ้าง ก้องควักเศษสตางค์ให้ก็ชักสีหน้าไม่ค่อยพอใจ เลยโดนก้องเขกหัวไปทีก่อนจะยื่นแก้วโอเลี้ยงให้
“ยังเหลือเกือบเต็มแก้ว เอาไปกินให้หมดแล้วกัน” ก้องบอกแค่นั้นก็เดินออกไป เด็กชายทำหน้าเซ็ง แต่ไม่ทันจะกลับรุ่งก็เข้ามาสะกิดเรียก
“เดี๋ยวไอ้หนู อย่าเพิ่งไป อยากได้ตังค์ใช้ใช่มั้ย แค่บอกข้ามาว่าไอ้หมอนั่นมันใช้ให้เอ็งไปถามหาใคร” รุ่งไม่พูดเปล่า แต่โบกแบงก์ในมือไปมา ทำเอาเด็กชายตาโตสนใจ...
ก้องผิดหวังมุ่งหน้าจะกลับชุมโจร แต่ระหว่างทางรู้สึกได้ว่ามีคนตามจึงระวังตัวตลอด แล้วช่วงหนึ่งก็ชักปืนหันขวับมาเล็งข้างหลัง ปรากฏว่าเป็นรุ่งที่รีบ ร้องบอกให้อีกฝ่ายเก็บปืนก่อนที่มันจะโป้งป้างขึ้นมา
“ไอ้เวรเอ๊ย อยู่ๆก็โผล่มา ดีนะที่นิ้วข้ายังไม่ทันกระดิก”
“ท่าทางเอ็งระวังตัวแบบนี้ คิดว่ากำลังโดนตำรวจตามตัวอยู่หรือไง”
“ก็เออสิวะ ว่าแต่เอ็งมาทำอะไรแถวนี้”