ตอนที่ 14
ฝ่ายศิถีเดินเข้าไปใกล้เสาหัวเตียงซึ่งเป็นช่องลับเก็บผ้าลูกไม้กำลังจะเอามือจับ เหมหิรัญญ์พรวดพราดเข้ามาถามเสียงเครียดว่ามาทำอะไรในนี้ เธออ้างว่าเข้ามาทำความสะอาด เขามองไปรอบๆห้องไม่เห็นอุปกรณ์ทำความสะอาดสักชิ้นแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ปลาทูเดินถืออุปกรณ์ทำความสะอาดเข้ามาเสียก่อน ศิถีตีเนียน บอกให้ปลาทูช่วยทำความสะอาดต่อเลยก็แล้วกัน เธอขอตัวไปเตรียมอาหารให้เขา
“ส่วนคุณเดือนออกไปกับผู้กองตั้งแต่เช้าแล้ว วันนี้คุณเหมคงต้องกินอาหารเช้าคนเดียวนะคะ” ศิถีแกล้งย้ำให้เหมหิรัญญ์ช้ำใจเล่นก่อนจะเดินออกจากห้อง
เขามองตามสงสัยในตัวเธอมากขึ้น
ooooooo
ในเวลาต่อมา ศิถีนำเรื่องที่เหมหิรัญญ์ยังป้วนเปี้ยนอยู่ในบ้านทำให้ไม่สะดวกในการค้นหาผ้าลูกไม้ผืนนั้นไปฟ้องนายหัววรงค์ พร้อมกับบ่นให้ฟังถ้าเหมหิรัญญ์เป็นคนธรรมดาป่านนี้ตายไปนานแล้วเพราะกินยาที่เธอให้ นายหัวเห็นควรให้กำจัดให้สิ้นซาก มันไม่อยู่สักคนเราก็บังคับเดือนพัตราให้พาเราไปที่นั่นได้
“แต่ถ้ามันตายตอนนี้ ตำรวจก็จะสงสัยเรานะคะ”
นายหัววรงค์จะให้ทองมาตย์ไปจัดการเหมหิรัญญ์ซึ่งยังป่วยอยู่โดยให้ทำทีว่าเป็นโจรปล้นบ้านแล้วจับมันฆ่าทิ้งจะได้จบเรื่อง แต่ถ้าทองมาตย์ทำพลาดขึ้นมาก็ให้มันรับผิดชอบไปเองไม่เกี่ยวกับเรา ศิถีสงสัยทองมาตย์หายหัวไปไหนไม่เห็นหน้า นายหัวยิ้มเหยียดคนอย่างมันถ้าไม่ใช่ไปอยู่ในบ่อนพนันก็ต้องอยู่ร้านเหล้า...เป็นอย่างที่นายหัววรงค์ว่าไว้ไม่มีผิดเพี้ยน
ทองมาตย์แวะไปที่บ่อนพนันแต่นักเลงไม่ให้เข้าเนื่องจากหนี้คราวที่แล้วยังใช้ไม่หมดก็เลยจับเขาโยนออกมา สายสืบของรัตนพรรณเห็นเขาเข้า รีบโทร.แจ้งเจ้านาย
ทองมาตย์ไม่ได้เล่นพนันจึงแวะซื้อเหล้าดื่มที่ร้านขายของชำแทน ดื่มไปได้แค่ครึ่งขวด รัตนพรรณที่ได้รับแจ้งข่าวตามมาเอาเรื่องเขาฐานปล่อยให้ตัวเองต้องหนีเจ้าหนี้หัวซุกหัวซุนทั้งที่ไม่ได้เป็นคนก่อหนี้ แถมเธอไม่ได้มาตามลำพังพานักเลงหน้าเหี้ยมมาทวงหนี้จากเขาอีกด้วย
“โชคดีนะไอ้ผัวเฮงซวย” รัตนพรรณชี้เป้าให้นักเลงเสร็จเดินนวยนาดจากไป ทองมาตย์เห็นพวกนักเลงทวงหนี้ย่างสามขุมเข้าหาทำเป็นยิ้มใจดีสู้เสือ แต่พอสบช่องเขาโดดถีบพวกนักเลงล้มคว่ำก่อนจะสวมวิญญาณน้องหมาเผ่นแนบ ด้วยความเจ้าเล่ห์ทำให้เขาหนีรอดเงื้อมือนักเลงทวงหนี้มาได้...