ตอนที่ 14
ไม่นานนัก ศิถีมายืนอยู่ตรงหน้านายหัววรงค์เอายาทาแผลแตกที่หัวตัวเองไปพลางบ่นให้เขาฟังไปด้วยว่าจะปล่อยแก้วเพชรไปแบบนี้หรือ เขาขอร้องให้อดทนไว้ก่อนอย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เธอหาว่าที่เขาไม่ให้ทำอะไรแก้วเพชรเพราะยังรักมันอยู่ เขาปฏิเสธว่าเปล่า ไม่ได้รู้สึกรู้สมอะไรกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว
“แต่คิดดูสิถ้านังแก้วเพชรเป็นอะไรไปตอนนี้ ตำรวจก็จะยิ่งจับตาดูพวกเราเพิ่มขึ้น เอาไว้ให้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วค่อยจัดการก็ไม่เสียหายอะไร ว่าแต่หาผ้านั่นเจอหรือยัง”
ศิถียังหาไม่เจอ ยิ่งเหมหิรัญญ์อยู่บ้านตลอดทำให้เธอทำอะไรไม่สะดวก แต่คงอีกไม่นานเพราะเธอแอบได้ยินมันกับเดือนพัตราทะเลาะกัน เหมือนว่านังนั่นไม่อยากให้เหมหิรัญญ์อยู่ที่นี่อีกแล้ว นายหัวสงสัยว่าทำไม
“ศิถีก็ได้ยินไม่ถนัดเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนว่าไอ้เหมมันจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ ถ้าอยู่มันอาจจะตาย”
“งั้นก็ดี หาทางเร่งให้มันตายเร็วขึ้นหน่อยก็ดี”
“นายหัวไม่ต้องห่วง ยาที่ศิถีให้มันกินจะค่อยๆ ทำลายกล้ามเนื้อหัวใจ ร่างกายมันจะอ่อนแอลง สุดท้ายก็จะหัวใจวายตายไปเอง ไม่มีใครจับเราได้แน่ๆ ทั้งศึกร่างกายและศึกของหัวใจ ยิ่งมีคุณหนูแหวนมาช่วยปั่นหัวมันอีกแรง ไอ้เหมมันจะทนได้สักกี่น้ำ”
“ดี...ฉันจะดูความสำเร็จของเรา” นายหัววรงค์ยิ้มอย่างมีความหวัง...
ทางด้านเดือนพัตราออกไปเตร่กับมรุตกว่าจะกลับถึงบ้านพระอาทิตย์ตกทะเลไปนานแล้ว เหมหิรัญญ์ซึ่งรอท่าอยู่ตัดพ้อต่อว่าเธอว่าทำแบบนี้ทำไม อยากให้เขาหึงแล้วไปจากเธอใช่ไหม เรื่องแค่นี้คิดว่าเขาไม่รู้หรือ เธอไม่ได้คิดอย่างนั้น เธอแค่เบื่อที่จะต้องอยู่บ้านกับเขาต่างหาก
“ถ้าคุณคิดว่าคุณทนเห็นฉันเป็นแบบนี้ไม่ได้ก็กลับไปซะ ฉันอยากมีทางเลือกบ้าง ที่แล้วมาฉันอาจจะไม่เห็นคุณมรุตอยู่ในสายตา แต่พอฉันคิดไปคิดมา
คุณมรุตก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ไหนๆคุณก็อยู่ที่นี่ไม่ได้อยู่แล้ว ทำไมฉันจะต้องทนกับสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าคุณทนได้ก็ตามสบาย” พูดจบเดือนพัตราเดินขึ้นข้างบน ทันทีที่หันหลังให้เหมหิรัญญ์ ท่าทีไม่แคร์เมื่อครู่ก็เปลี่ยนไปน้ำตาพานจะไหลที่ต้องพูดจาเชือดเฉือนอีกฝ่าย
“ผมทนได้ เพราะผมรู้ว่าคุณยังรักผม ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะ” เหมหิรัญญ์ตะโกนไล่หลัง เดือนพัตราถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่รีบเข้าห้องปิดประตูกลัวเขาจะเห็นตัวเองร้องไห้