ตอนที่ 14
เมื่อมาถึงโรงพัก เดือนพัตรากับมรุตเดินสวนกับวโรชาที่เพิ่งทำธุระเสร็จ ฝ่ายหลังไม่พอใจที่เห็นทั้งคู่มาด้วยกันแต่ต้องฝืนยิ้มให้ ทักทายสีหน้าร่าเริง ทั้งคู่ทักตอบพลางถามว่ามาทำอะไรที่นี่ เธอมาให้ปากคำเพิ่มเติมแล้วถามเดือนพัตรามาที่นี่ทำไม เห็นคนถูกถามอึกอัก เธอรีบตัดบท
“โอเคค่ะ ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร แหวนก็ถามไปเรื่อยเปื่อยงั้นเอง แหวนเสร็จธุระแล้วขอตัวก่อนนะคะ” ทันทีที่เดินพ้นไป สีหน้าของวโรชาเปลี่ยนเป็นเคียดแค้น “นังเดือนฉันจะทวงทุกอย่างของฉันคืนจากแก คอยดู”
จ่าสนิทเห็นเดือนพัตรามากับมรุตก็มองงงๆ ก่อนจะรายงานเขาว่าเมื่อวานดาบชัยเจอศิถีมีเรื่องกับใครไม่รู้แถวตลาด พอเข้าไปช่วยคนนั้นก็หายไป หัวเธอโนเป็นลูกมะกรูดเลย แต่พอดาบชัยบอกให้มาแจ้งความก็ไม่มา
“คุณศิถีมีเรื่องไม่เห็นบอกอะไรเดือนเลย”
“หรือว่าจะเป็นพวกนายหัวส่งมาทำร้ายคุณเดือนครับ คืออาจจะแค่ขู่ๆอะไรอย่างนี้หรือเปล่าครับ” จ่าสนิทตั้งข้อสังเกต มรุตรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ปกติขออนุญาตเดือนพัตราไปคุยกับศิถี เธอไม่ขัดข้องเชิญเขาตามสบาย
ooooooo
ออกจากโรงพัก วโรชาตรงมาหาเหมหิรัญญ์ที่บ้านหวังจะเสี้ยมให้หมางใจกับเดือนพัตรา โดยเล่าเรื่องที่ตัวเองไปเจอเดือนพัตราไปกับมรุตที่โรงพัก ท่าทางอี๋อ๋อกันมากที่โรงพักลือหนาหูว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน
“ผมไว้ใจเดือน เราเชื่อใจและซื่อสัตย์ต่อกัน”
“สมัยนี้มันไม่มีแล้วนะคะคุณเหม ไอ้ประเภทรักเดียวใจเดียว มันก็แค่เรื่องเพ้อเจ้อในนิยายเท่านั้นแหละ”
“ผมรู้จักเดือนดีพอ” เหมหิรัญญ์ยืนยันคำเดิม
“หรือคุณเหมต้องเห็นกับตาตัวเองก่อนคะถึงจะเชื่อ อย่าว่าแหวนอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะคะ พูดเยอะไปเดี๋ยวจะหาว่าแหวนยุให้แตกคอกันเปล่าๆ แหวนก็แค่มีเซ้นส์เบาๆแบบผู้หญิงทั่วไป เรื่องพวกนี้ผู้หญิงเรามักจะได้กลิ่นก่อนเสมอ” คำพูดของวโรชาเริ่มสั่นคลอนความไว้ใจในตัวเดือนพัตราของเหมหิรัญญ์ ทำให้ทนฟังต่อไปไม่ไหว ขอตัวก่อนแล้วลุกหนีไปเลย...
ที่ห้องทำงานมรุต จ่าสนิทเห็นผู้กองหนุ่มเอาแต่มองเดือนพัตราแซวว่าจ้องขนาดนี้ระวังคนอื่นจะเข้าใจผิด มรุตเรียกเขามาใกล้ๆแล้วกระซิบบางอย่าง จ่าสนิทถึงกับร้องเอะอะมองไปทางเดือนพัตราพลางยกมือปิดปาก
“ไปจ่า” มรุตเร่ง
จ่าสนิทรับคำเดินผ่านเกาหัวออกไปงงไม่หายกับการกระทำของมรุต...