ตอนที่ 14
ที่ศาลาริมน้ำ ปิ่นปักนั่งซึมอยู่ นพเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของเธอก็รู้ว่ามีเรื่องไม่สบายใจเข้าไปถามว่าคิดถึงพ่อหรือ เธอพยักหน้ารับคำ ป่านนี้แล้วยังไม่รู้ว่าท่านจะเป็นอย่างไร พวกธนูยังคงตามล่าตัวท่านอยู่
“ยังไม่มีข่าวเกี่ยวกับท่านเลย ฉันว่าท่านยังปลอดภัย” นพจับมือเธอมากุมไว้ “ฉันจะรีบตามหาพ่อเธอ ถ้าฉันเจอเขา น่าจะปลดล็อกเรื่องราวทั้งหมดได้”
ปิ่นปักภาวนาให้นพเจอตัวพ่อของเธอให้เร็วที่สุด
ooooooo
สาลินีซื้อปืนมาเตรียมไว้สำหรับสะสางกับธนู มีเสียงเคาะประตูห้องพักดังขึ้น ความหวาดระแวงถาโถมใส่ เธอคว้าปืนมาถือไว้ เดินไปที่ประตู
ร้องถามว่าใคร
“ฉันเอง” เสียงคุ้นหูของใครบางคนทำให้สาลินี มองผ่านช่องตาแมว เห็นชายที่สวมหมวกอำพรางใบหน้าถอดหมวกออกเผยให้เห็นเปลวยืนอยู่ เธอรีบเปิดประตูให้เข้ามา
“ทำไมคุณถึงคิดว่าฉันยังพักที่นี่ แล้วกลับมาหาฉัน”
เปลวเฝ้าดูสาลินีมาพักหนึ่งแล้วเห็นเธอกับเม้งตระกองกอดกันเข้าไปในผับของธนู เขารู้ดีว่าคนอย่างเธอไม่มีทางคบลูกน้องกระจอกอย่างเม้ง แล้วพอเขาได้ข่าวผับของธนูถูกเผา ทำให้ยิ่งมั่นใจว่าเธอต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอยังคาใจไม่หายเขามาหาเธอทำไม
“คุณเป็นคนเดียวที่ผมไว้ใจได้ ผมแค่อยากรู้ครอบครัวผมเป็นอย่างไรบ้าง”
“คุณนพดูแลลูกและภรรยาคุณเป็นอย่างดี ถ้าคุณอยากติดต่อครอบครัว ฉันมีเบอร์คุณนพ”
“พวกเขาปลอดภัย ผมก็อุ่นใจแล้ว”
“คุณควรกลับไปหาครอบครัวคุณ”
“ผมยังกลับไปไม่ได้ ต้องสะสางเรื่องทั้งหมดที่ผมก่อ”
“ฉันคิดว่าเรื่องที่คุณจะทำเป็นเรื่องเดียวกับฉัน เราน่าจะร่วมมือกัน”
“นี่อาจเป็นครั้งแรกที่เราร่วมกันทำในสิ่งที่ ถูกต้อง”...
นพกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ที่มุมหนึ่งของบ้านเพิ่ม มีเสียงมือถือของเขาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาเห็นเบอร์แปลกๆ ตัดสินใจลุกออกไปรับสายนอกบ้าน ปิ่นปักจะมาคุยด้วยเห็นเขาออกไปคุยสายนอกบ้านก็นิ่วหน้าแปลกใจ นพเดินมาถึงมุมปลอดคนจึงกดรับสาย
ถึงได้รู้ว่าเปลวเป็นคนโทร.มา
“คุณเปลว คุณอยู่ที่ไหน”
“นายไม่ต้องรู้หรอก ฉันมีเรื่องสำคัญต้องบอก ฉันไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอนายได้คุยกับนายอีกหรือเปล่า”
“คุณมีเรื่องอะไรจะบอกผม”
“ฉันโกหกธาราเกี่ยวกับการตายของพ่อนาย ฉันสร้างเรื่องเพื่อให้ธาราตัดใจจากพ่อนาย แล้วยอมมาอยู่กินกับฉัน ฉันยืนยันว่าธารารักและเป็นห่วงนาย ขอให้นายรู้ไว้ว่าแม่นายรักนายเสมอ ถ้าฉันมีโอกาสอีกครั้งฉันอยากจะเคลียร์ทุกเรื่องกับนาย”