ตอนที่ 1
ไฟที่กะพริบติดๆดับๆนั้นเหมือนเป็นการสะกดจิต ทำให้วิลิตรู้สึกราวกับถูกดูดเข้าไปในรูปถ่าย...
พริบตาเดียว จากกรุงเทพฯในปัจจุบันก็กลายเป็น...
“บางกอก...ปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว”
เป็นเวลาที่ห้องดนตรีบ้านพระสรรพการ...กำลังมีการประชันวงดนตรีสองวง คือวงพระสรรพ์กับวงพระธำรงค์ คนดูวิพากษ์วิจารณ์กับหลวงบำรุงที่ดูการประชันกันอยู่ว่า วงพระสรรพ์กินขาด หลวงบำรุงติงว่า ก็ใช่ว่าจะพลั้งไม่ได้ รอให้จบเสียก่อน
“ห่างชั้นกันอย่างนี้ ไม่ต้องรอประชันจบก็รู้ว่าพระสรรพ์กินเรียบ ดีที่ฉันถือหางอยู่ คงได้โขละงานนี้”
“เอ็งเห็นบ้านพระสรรพ์เป็นโรงบ่อนไปแล้วรึ” หลวงบำรุงตำหนิสีหน้าไม่พอใจ แล้วหลวงบำรุงก็จับตาดูพิกุลที่จับปี่สีหน้าเรียบนิ่งอย่างมีสมาธิ พอวงของจางวางพ่วงส่งลูกต่อให้ ทำให้คนปี่ของฝ่ายตรงข้ามจับปี่เข้าปากแทบไม่ทัน เสียงคนดูฮือเบาๆ พิกุลยิ้มน้อยๆ แต่พระสรรพ์กระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อเห็นอีกฝ่ายเกือบพลาด
พระสรรพ์เอ่ยกับพระธำรงค์ว่าดูท่าจะไม่ไหว
ถ้าคุณพระฝืนต่อตนเกรงว่าจะจบไม่สวย ท่านจะเอาชื่อมาทิ้งไว้ที่นี่เสียเปล่า พระธำรงค์ยอมรับว่าวงตนรับช้าไปนิด แต่ถึงกับจะให้ตนโยนผ้าเลย ออกจะง่ายไปหน่อยกระมัง
พิกุลได้แสดงฝีมือการเป่าปี่ที่รับท่อนต่อจากวงคู่ประชันได้อย่างทันท่วงทีซ้ำยังเป่าข่มด้วย หลวงบำรุงยิ้มออกเมื่อเห็นฝีมือของพิกุล จับตามองเธออย่างมี
ความหมาย พิกุลเห็นแต่ไม่ใส่ใจ
สุดท้ายวงของจางวางพ่วงก็แสดงฝีมือท่อนจบด้วยความเด็ดขาด จนคนดูตะลึงอ้าปากค้าง แต่หลวงธำรงค์ส่ายหน้าอย่างไม่พอใจ
ooooooo
พระสรรพ์ยืนอยู่กับพระธำรงค์ที่มุมหนึ่ง ในขณะที่ลูกน้องพระธำรงค์ทยอยขนเครื่องดนตรีออกจากห้อง
พระธำรงค์เอ่ยกับพระสรรพ์ว่าถ้าตนดื้อดึงไม่ยอมรับว่าสู้วงของท่านไม่ได้ก็เห็นทีจะมองหน้าคนดูไม่ติดเหมือนกัน พูดอย่างไว้เชิงว่า
“แต่จะยอมแพ้ก็แค่ครั้งนี้เท่านั้น”
“คุณพระขอยอมเพื่อรักษาเกียรติโดยแท้ เช่นนี้น่าเคารพนักขอรับ”
พระธำรงค์รู้ว่าพระสรรพ์เยินยอ แต่มิได้ว่ากระไร หยิบปึกเงินส่งให้พูดอย่างไว้เชิงว่า
“เงินพนันที่ตกลงกันไว้ ประชันคราวหน้าฉันจะเอาคืน แต่ต้องหนากว่าปึกนี้ เอาอย่างนั้นไหมคุณพระ”
“ขอรับ หนากว่านี้อีกกี่เท่า วงปี่พาทย์ของกระผมก็มีแต่จะกินเรียบเท่านั้น”
พระธำรงค์ยิ้มรับคำท้าทาย ชูแก้วชวนจิบ
เครื่องดื่มกัน แต่ไม่ทันจิบก็ต้องชะงัก เมื่อเสียงจาง
วางพ่วงโพล่งแทรกขึ้นอย่างเด็ดขาดว่า
“คุณพระทำอย่างนี้ไม่ได้นะขอรับ!!”
พระสรรพ์ พระธำรงค์ หันมองจางวางพ่วงขวับ คนในบริเวณนั้นต่างก็หันมองจางวางเป็นตาเดียว
พระธำรงค์ถามว่าขัดใจจางวางตรงไหนรึ พระสรรพ์ถามว่าหรือตนตั้งราคาต่อรองกับเจ้าคุณไม่สมกับฝีมือของจางวาง จางวางพ่วงยิ่งโกรธ ตอบพระสรรพ์ว่า