ตอนที่ 1
ฝ่ายพิกุลถามเอื้อยว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เอื้อยบ่นหัวเสียว่า
“ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้โผล่มากลางคลองนั่นน่ะ ตกใจจะแย่”
พิกุลพยายามเพ่งมอง ก็เห็นแสงไฟเคลื่อนไหวไปมาที่ท่าน้ำฝั่งตรงข้าม พอเขม้นมองเห็นว่าเป็นผู้ชายไม่ใส่เสื้อ นึกได้ว่าตัวเองก็นุ่งกระโจมอกอยู่ รีบคว้าผ้าขาวม้าคลุมไหล่บ่นว่า
“ขึ้นเรือนเถอะเอื้อย ดูท่าจะเป็นพวกลามกจกเปรต แอบดูคนอาบน้ำ”
หลวงราชเพ่งมองที่ท่าน้ำฝั่งตรงข้ามเห็นผู้หญิงสองคนกึ่งวิ่งกึ่งเดินหายไปทางเรือน บอกมุดยิ้มๆว่า
“ดูท่าจะเป็นผีผู้หญิงเสียด้วย”
ooooooo
มุดขวัญหนีดีฝ่อ พอรุ่งเช้าก็แทบกราบหลวงราชขอให้ย้ายที่นอน ขืนอยู่ที่นี่ตนคงอาบน้ำไม่เป็นสุขแน่ หลวงราชบอกว่าถ้าผีมีจริงก็ต้องหลอกตนตั้งแต่เมื่อคืนแล้วสิ
หลวงราชมองไปท่าน้ำฝั่งตรงข้ามได้ยินเสียงซ้อมปี่พาทย์แว่วมา มุดได้ยินก็หน้าเสียบอกว่ามันโหยหวนวิเวกนักนะขอรับ หลวงราชกลับบอกว่ารื่นหูดีอยู่หรอก มุดติงว่าเมื่อวานคุณหลวงบ่นว่าเสียงแบบนี้มันหดหู่
“ข้าเปลี่ยนใจแล้ว”
มุดถามว่าอยู่ๆก็เปลี่ยนใจอย่างกับมีอะไรดลใจ หลวงราชมองไปท่าน้ำฝั่งตรงข้าม เห็นพิกุลออกมานั่งตามลำพัง หยิบปี่ขึ้นมาไม่ทันจะเป่าก็หันมองท่าน้ำฝั่งตรงข้าม หลวงราชโบกมือทัก พิกุลรีบเก็บปี่เดินเข้าบ้าน หลวงราชผิดหวัง บอกมุดว่า
“ก็น่าจะมีอะไรดลใจอย่างเอ็งว่าล่ะ ไอ้มุด เราจะอยู่กันที่นี่จนกว่าจะรู้ว่าคนฝั่งนั้นเป็นใคร”
มุดถามว่าตนจะรู้ได้อย่างไร แปลกหน้าแปลกถิ่นอย่างเรา ทะเล่อทะล่าเข้าไป เกรงว่า...หลวงราชยิ้มบอกว่า
“เอ็งลืมไปแล้วหรือไอ้มุด กำนันท่านออกปากเองว่าจะอำนวยความสะดวกให้...ไปสืบมาให้รู้เรื่องทีเถอะ”
หลวงราชสั่งมุด ยิ้มกริ่มอย่างอยากรู้จักหญิงสาวท่าน้ำฝั่งตรงข้ามมากขึ้น
สุดแม่ครัวประจำบ้าน ยกสำรับอาหารเช้ามาให้ลูกวง แปลกใจที่ไม่เห็นพิกุล บอกให้เอื้อยไปตาม เพียรได้ยินพอดีบอกว่าไม่ต้องไปตามตนหาให้แล้ว ป่านนี้คงหาที่ซ้อมปี่อยู่กระมัง สุดห่วงว่าพิกุลจะเป็นลมเสียก่อน เพียรพูดกระทบจางวางที่นั่งกินข้าวเป็นทองไม่รู้ร้อนว่าไม่ต้องหรอก พ่อมันยังไม่ห่วงเลย แล้วเข้าครัวไปเลย
ooooooo
ที่บ้านเจ้าคุณพิชัยเดชาในพระนคร เจ้าคุณกับคุณหญิงเกสรเพิ่งกลับจากข้างนอก พอลงจากรถ เจ้าคุณถามบ่าวว่าคุณหลวงกลับมาหรือยัง พอบ่าวบอกว่ายัง เจ้าคุณส่ายหน้าไม่พอใจ
“ตายศลูกแม่ ไม่รู้ป่านนี้ไปตกระกำลำบากที่ไหนก็ไม่รู้” คุณหญิงวิตกกังวล แต่เจ้าคุณกลับยิ้มขำบอกว่ามันคงเพลินอยู่ที่ไหนสักแห่ง ยิ่งมีไอ้สมุนคู่ใจไปด้วย อย่าหวังเลยว่าจะกลับบ้านง่ายๆ “อิฉันก็ห่วงตามประสาคนเป็นแม่ กลับจากยุโรปไม่ทันได้อาทิตย์กินอยู่ยังไม่คุ้น ก็ออกไปตะลอนๆแล้ว จะไม่ให้อิฉันห่วงยังไงกัน”