ตอนที่ 15
“แล้วพี่มรุตล่ะคะ ยกโทษให้แหวนได้หรือเปล่า”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ผมก็อยากมีน้องสาวคนใหม่ที่น่ารักๆ ไม่เหวี่ยงไม่วีนไม่เอาแต่ใจ”
วโรชายิ้มน้ำตาคลอขอบคุณที่เขาไม่ถือโทษโกรธกัน แล้วเรื่องระหว่างเขากับเดือนพัตราเป็นอย่างไรบ้าง เขาทำใจได้แล้วว่าเขากับเธอเป็นได้แค่เพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น...
ตกเย็นเดือนพัตราเอาผ้าลูกไม้ลงไปที่ห้องใต้ดิน มองประตูกาลพร้อมกับยกผ้าลูกไม้ขึ้นมาเทียบ อีกไม่กี่วันดวงจันทร์ที่อยู่หน้าประตูกาลกับดวงจันทร์บนผ้าลูกไม้จะโคจรมาบรรจบกันอีกครั้ง เธอคิดถึงเหมหิรัญญ์ เหลือเกินเอื้อมมือไปแตะประตูอย่างแผ่วเบา
“เราคงไม่ได้พบกันอีกแล้วใช่ไหม เหมหิรัญญ์”
เหมหิรัญญ์ที่ยืนอยู่อีกด้านของประตู เห็นเดือนพัตราโดยตลอด เอื้อมมือจะไปแตะประตูแต่แล้วตัดใจลดมือลงหันหลังเดินจากไป อีกมุมหนึ่งไม่ห่างกันนัก เรขรุจียืนมองเขาอยู่ ขยับจะเข้าไปปลอบใจแต่ราเมศดึงตัวไว้
“อย่างไรเสียเหมหิรัญญ์ยังคงตัดใจจากมนุษย์แห่งชมพูทวีปผู้นั้นไม่ได้ ท่านจะทำอย่างไรเรขรุจี”
“ไม่นานเหมจะทำได้” เรขรุจีดึงมือราเมศออก เขาดักคอนี่เธอกำลังหลอกใจตัวเองอยู่ เธอตัดพ้อเขาไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของเธอ เขาโต้ว่าทำไมจะไม่เข้าใจในเมื่อเขาเองก็เป็นเช่นเดียวกับเธอและเช่นเดียวกับเหมหิรัญญ์ เธอเองก็รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเธอ เหมหิรัญญ์ไม่สามารถตัดใจจากมนุษย์ผู้นั้น เธอเองก็ตัดใจจากเหมหิรัญญ์ไม่ได้ เขาก็เช่นเดียวกันไม่สามารถตัดใจจากเธอได้ เรขรุจีมองเขารู้สึกสับสนในใจ
ooooooo
เดือนพัตราขลุกอยู่ในห้องใต้ดินทั้งคืน กว่าจะกลับขึ้นมาเป็นตอนสายของอีกวัน พบว่าอรุณกับปริทัศน์มารอท่าอยู่ หลังจากถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันแล้ว ปริทัศน์จึงบอกเหตุผลที่มาหาเธอที่นี่ เนื่องจากวิทยานิพนธ์เรื่องสำรวจบ้านหลังนี้ของเขายังค้างอยู่ก็เลยจะมาขออนุญาตเธอสำรวจต่อ เธอเชิญเขาตามสบาย
“ยังไงซะก็เป็นเจตนารมณ์ของคุณยายอยู่ก่อนแล้ว ฉันคงไม่ขัด เว้นแต่เรื่องความลับของบ้าน”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาครับ ความลับก็ยังคงเป็นความลับต่อไป” ปริทัศน์รับคำหนักแน่น เดือนพัตราขอตัวก่อนแล้วเดินลิ่วขึ้นข้างบน ปลาทูมองตามสงสารเจ้านาย บ่นกับอรุณว่าตั้งแต่เกิดเรื่องคุณเดือนสีหน้าเศร้าสร้อยไม่เลิก สงสัยจะคิดถึงคุณเหม แล้วนี่เขาพอจะรู้หรือไม่ว่าคุณเหมจะกลับมาอีกไหม
“ไม่รู้สิ เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับเจ้านายของปลาทูแล้วล่ะ” อรุณมองตามเดือนพัตราไปอย่างเห็นใจ...