ตอนที่ 9
“แกเกือบฆ่ายุพราชไปคนนึงแล้วยังไม่พอ ยังจะมาทำร้ายลูกฉันอีกหรือไอ้คนชั้นต่ำ”
“ผมไม่ได้ทำอะไรเจ้าขุนแสงเรืองสักนิด ทุกคน ในที่นี้ก็เห็น เจ้าขุนแสงเรืองเข้าใจผมผิด”
“เข้าใจผิดอะไร แกปีนคุ้มเข้าหาเจ้าจ้อย แกเป็นโจรหรือเป็นทหารกันแน่”
“ผมกล้าทำผมก็กล้ารับ ผมปีนห้องเข้าหาเจ้าจ้อยจริง แต่ผมไม่ได้มีจุดประสงค์ไม่ดี ผมกำลังปฏิบัติภารกิจลับอยู่”
“ภารกิจลับบ้าบออะไร ถึงต้องทำตัวลับๆล่อๆ ปีนเข้าห้องผู้หญิง”
เผ่าเทพก้าวเข้ามาออกโรงแทนเพื่อน “เจ้าพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะครับ พวกเราสองคนมาปฏิบัติภารกิจลับจริงๆ พสุมาเข้าเฝ้าเจ้าแสงจันทาเพื่อบอกว่าเมื่อวานที่ปางไม้มีทหารซาอูสองคนบุกเข้าไปหาเจ้าจ้อย แต่เคราะห์ดีที่พวกเราสองคนตามไปจัดการได้ทัน”
“ทหารซาอู พวกมันตามมาถึงที่นี่เลยหรือเจ้าพี่” มหาเทวีอุทานพลางหันมองเจ้าหลวงที่มีสีหน้าลำบากใจ
ooooooo
ครู่ต่อมา ภายในห้องหนึ่งในเรือนเจ้าหลวง ทุกคนมาชุมนุมกันด้วยสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด
“เฮาได้รับการติดต่อจากทางการไทยบอกว่ามีมือสังหารจากซาอูติดตามพวกเรามาถึงที่นี่ และทางการไทยก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่สองนายนี้มาคอยคุ้มกันพวกเราอย่างลับๆ”
“แต่เฮาได้ยินเจ้าจ้อยเล่าว่าหมวดพสุละทิ้งหน้าที่ตอนที่จะพาเจ้าจ้อยข้ามชายแดนไทยมาไม่ใช่หรือ แล้วทางการไทยส่งคนแบบนี้มาคุ้มกันเราได้ยังไง”
“เขาไม่ได้หนีเจ้าค่า เขาหลอกล่อทหารซาอูไปอีกทางจนถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส”
“แล้วทำไมลูกถึงเคยพูดว่าเขาทิ้งลูกไป”
“เรื่องนั้นเป็นเพราะว่ายุพราชโกหกลูกเจ้าค่า ยุพราชบอกลูกว่าเขาทิ้งลูกไป ทั้งที่จริงแล้วเขายอมแลกชีวิตตัวเองเพื่อความปลอดภัยของลูกและยุพราช”
อกานซิงห์ได้ยินเจ้าจ้อยพูดแล้วอึ้ง นึกละอายใจกับการกระทำของลูกชาย
“ส่วนเรื่องที่ผมปีนห้องเจ้าจ้อย ผมไม่ได้ทำอะไร ล่วงเกินเธอเลยแม้แต่น้อย ผมขอเอาเกียรติยศของผมเป็นประกันครับ”
“เรื่องนั้นเฮาขอคุยรายละเอียดกับคุณเป็นการส่วนตัว ตามเฮามา”
พสุเดินตามเจ้าหลวงออกไป เจ้าขุนแสงเรืองไม่พอใจโวยวายอยู่ในห้อง
“ผู้หญิงผู้ชายอยู่กันตามลำพังสองต่อสองในที่ลับตาคนแล้วบอกว่าไม่มีอะไร ใครเชื่อก็โง่แล้ว”
“ไหนมหาเทวีบอกว่าเจ้าหลวงจะจัดการอย่าง ยุติธรรม เล่นเรียกไปคุยกันสองต่อสองแบบนี้ ยังเรียกได้ว่ายุติธรรมอีกหรือ”
“เจ้าพี่จะเอายังไงก็คุยกับเจ้าหลวงโดยตรงเลยก็แล้วกัน เฮาปวดหัว เฮาอยากพัก เจ้าจ้อย ลุมพู ช่วยพาเฮาออกไปหน่อย”