ตอนที่ 9
เจ้าจ้อยทำแผลให้พสุเสร็จเรียบร้อยแล้วบอกให้กลับไปพักผ่อน กำชับว่าอย่าลืมกินยาแก้อักเสบไม่เช่นนั้นอาจไข้ขึ้น เผ่าเทพอยู่ด้วยตลอดยิ้มล้อพสุที่อ้อนเก่งเหลือเกิน ก่อนจะบอกเจ้าจ้อยว่า
“ไม่ต้องห่วงนะครับเจ้า ผมจะดูแลมันต่อเองว่าแต่เจ้าเถอะครับ เตรียมตัวรับสถานการณ์ไว้ให้ดีนะครับ”
“จริงด้วย ถ้าเจ้าหลวงรู้เข้าว่าเกิดเรื่องแบบนี้ในคุ้ม จะว่ายังไงก็ไม่รู้”
“เรื่องนั้นเฮาจะเป็นคนจัดการเอง เจ้าพ่อเป็นคนมีเหตุมีผล ท่านคงเข้าใจ”
“เจ้าจ้อยครับ ผมมีเรื่องจะขอร้อง...เรื่องยุพราช ผมว่าเขาคงบาดเจ็บไม่น้อย ผมฝากเจ้าช่วยดูแลเขาด้วยนะครับ”
“ไม่ต้องห่วง ไม่ว่าสิ่งที่เขาทำจะผิดหรือถูกยังไง เขาก็ยังเป็นทหารเมืองจาย เฮาต้องดูแลเขาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว”
แล้วสามคนก็เดินออกไปที่ประตูเรือน ระหว่างนี้เองเจ้าขุนแสงเรืองกลับมาจากข้างนอกเดินขึ้นเรือนมาหมายจะลวนลามเจ้าจ้อย แต่เพราะพสุอยู่ด้วยจึงขัดขวาง ทำให้เจ้าขุนแสงเรืองโกรธมากและเพิ่งเห็นเต็มตาว่าเขาไม่ใช่คนในคุ้ม จึงตะโกนเรียกทหารมาจับตัวมันสองคน แต่เจ้าจ้อยกางกั้นและสั่งห้ามแตะต้องเขาสองคน
“เจ้าจ้อยปกป้องมันทำไม หรือว่ามีอะไรกับพวกมัน”
คำพูดนั้นของเจ้าขุนแสงเรืองทำให้พสุโกรธมาก สั่งเขาถอนคำพูดเดี๋ยวนี้
“มึงเป็นใครถึงกล้ามาสั่งกู กูจะพูดซะอย่าง ใครจะทำไม...เจ้าจ้อยมีอะไรกับพวกมันแล้วใช่มั้ย”
เปรี้ยง! หมัดพสุพุ่งกระแทกหน้าเจ้าขุนแสงเรืองอย่างแรงจนเขาล้มคว่ำ “หมัดนี้สำหรับคำพูดดูถูกผู้หญิง”
เจ้าขุนแสงเรืองโกรธมากกำหมัดเข้าใส่จะเอาคืน แต่พสุหลบทันเขาเลยวืด ลุมพูกับจ่อแตได้ยินเสียง
วิ่งออกมาห้ามพร้อมสั่งทหารองครักษ์จับเจ้าขุนแสงเรืองไว้ ขณะที่เจ้าจ้อยก็ไล่เขากลับไปนอนที่เรือนตัวเอง เมาแล้วอย่ามาอาละวาดให้อับอายข้าราชบริพาร
“นี่เจ้าจ้อยหาว่าพี่ก่อเรื่องเหรอ ต้องไอ้สองคนนั้นสิ มันมาหาเรื่องพี่ก่อน”
“ในฐานะที่น้องเป็นเจ้าของที่นี่ตอนนี้ น้องขอสั่งให้เจ้าพี่กลับไปที่เรือนเดี๋ยวนี้”
เจ้าขุนแสงเรืองเห็นเจ้าจ้อยไม่พอใจจริงๆ แถมตัวเองยังไม่มีพวกอีก จึงสะบัดตัวออกจากการจับกุมขององครักษ์แล้วหันไปลงกับลุมพู
“นังลุมพู มึงดูแลคุ้มยังไงให้ผู้ชายชั้นต่ำเข้ามาในคุ้มได้ คอยดูเถอะ ท่านแม่กูกลับมาเมื่อไหร่พวกมึงโดนลงหวายแน่” ด่าเสร็จเจ้าขุนแสงเรืองก็เดินปึงปังจากไป