ตอนที่ 6
ที่คุ้มจันทรา เจ้าจ้อยกำลังคิดถึงพสุ รำพึงรำพันหน้าเศร้าอยู่ในห้องเพียงลำพัง
“คุณเป็นอย่างไรบ้างพสุ ถึงอย่างไรเสียเฮาก็ขอบใจที่คุณช่วยเหลือเฮา ถ้าไม่มีคุณอยู่ข้างๆ เฮาก็คงไม่มีชีวิตรอดมาตลอดการหนีสู่ชายแดน เฮาหวังว่าคุณจะหนีไปได้อย่างปลอดภัย ไม่บาดเจ็บใดๆ ขอบใจที่เคยเป็นผีเสื้อกางปีกที่แข็งแรงปกป้องเฮา”
เวลาเดียวกันนั้นพสุก็คิดถึงเจ้าจ้อยเหมือนกัน อยากให้เธอมาเยี่ยมมาหา...ความรักที่เขามีให้เธอยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อเผ่าเทพขอตัวกลับ พสุบอกเขาว่าถ้าเจอเจ้าจ้อยฝากบอกด้วยว่าตนไม่เป็นไรมาก ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล ไม่ต้องเป็นห่วง วราพรจับสังเกตสีหน้าและคำพูดของลูกชายโดยตลอด พอเผ่าเทพกลับไปแล้วจึงถามพสุตรงๆว่าเขากับเจ้าจ้อยมีอะไรกันหรือเปล่า
“มีครับ ผมตกหลุมรักเธอ”
วราพรช็อก แต่ดนูเหมือนจะคาดเดาไว้แล้ว จึงไม่ได้มีท่าทีแปลกใจเท่าไหร่นัก
“ไม่ได้นะพสุ! ไหนสัญญากับแม่ว่ากลับจากภารกิจนี้แล้วลูกจะยอมทุ่มเทเวลาคบหาดูใจกับหนูบัวไงล่ะ แม่คุยกับคุณหญิงพิมพาไว้แล้ว จู่ๆลูกจะมาเบี้ยวไปคบองค์ยงองค์หญิงอะไรนั่นไม่ได้นะ”
พสุนิ่วหน้าแหยงกับเสียงแหลมๆของแม่ แต่พ่อยังคงพูดคุยปกติ
“พ่อจำได้ว่าเคยไปราชการที่ชายแดน แล้วได้ยินข่าวว่าเจ้าหญิงแสงจันทาทรงสิริโฉมงดงามมาก และมีคู่หมั้นคู่หมายแล้ว”
“มีคู่หมั้นแล้วด้วย นี่...อย่านะพสุ อย่าไปยุ่งเชียวนะ”
“เจ้าจ้อยไม่ได้เต็มใจหมั้นหมายหรอกครับแม่ แต่ถูกผู้ใหญ่จับคลุมถุงชน”
“แล้วลูกก็เชื่ออย่างงั้นเหรอ”
“แล้วเจ้าจ้อยจะโกหกผมทำไมล่ะครับแม่”
“ก็แล้วเจ้าจ้อยมาบอกลูกทำไมล่ะ”
“ก็เรารักกันนี่ครับแม่ เราก็ต้องพูดความจริงต่อกัน”
“รักเลยเหรอ พสุ...นี่ลูกเพิ่งเจอกับเจ้าหญิงแค่ช่วงไปช่วยชีวิตหนีออกจากประเทศเองนะ ลูกก็บอกว่ารักแล้วเหรอ”
“ครับแม่ เราผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะตอนที่หนี ผมได้พิสูจน์ใจตัวเองแล้วว่าผมอยากจะปกป้องผู้หญิงคนนี้ และพร้อมจะอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต”
“แต่เจ้าหญิงมีคู่หมั้นคู่หมายแล้วนะลูก”
“เจ้าจ้อยสัญญากับผมครับพ่อ ว่าจะถอนหมั้น แล้วให้โอกาสผม”
“พูดมันง่ายนะ แต่จริงๆจะทำได้หรือพสุ แม่ไม่อยากเห็นลูกผิดหวัง หนูบัวเพียบพร้อมทุกอย่าง แม่ไม่อยากให้ลูกทิ้งโอกาส...”
“คุณหญิง...เรื่องหนูบัวอย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลยนะ ลูกเพิ่งจะฟื้น รอให้ลูกหายดีเสียก่อนแล้วเราค่อยมาคุยกันอีกที”
วราพรจำต้องหยุด พสุเองก็ไม่อยากจะพูดอะไรอีก อยากให้เวลาพ่อแม่ได้ทำความเข้าใจ
ooooooo