ตอนที่ 1
รพีพรแนะปราการควรบอกเรื่องที่เขาไม่สบายให้ปพลรู้ เผื่อบางทีปพลอาจเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้าง เขาส่ายหน้า หากลูกอยากกลับมาที่นี่ก็ให้กลับเพราะเข้าใจในสิ่งที่เขาทำให้ไม่ใช่เพราะสงสารเขาที่ใกล้ตาย รพีพรมองเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวล กลัวว่ากว่าเขาจะปรับความเข้าใจกับลูกอาจสายเกินไป...
ในเวลาเดียวกันที่กรุงเทพฯ ปานตะวันดูรูปสมัยเด็กที่ถ่ายกับแม่ คร่ำครวญว่าท่านอยู่ไหน ทิ้งเธอไปทำไม จังหวะนั้น ปัทมาพรวดพราดเข้ามาในห้อง เธอวางรูปลงหันขวับไปมอง ปัทมาเตือนว่าอย่าทำแบบเมื่อคืนนี้อีก ไอ้พวกเด็กแว้นคิดว่าพี่เป็นคนโทร.แจ้งตำรวจ
“นี่พี่ต้องไปนอนในห้องขังทั้งคืนแล้วยังจะมาคิดว่าพี่แจ้งตำรวจอีกเหรอ”
“ก็ดีแล้วที่พี่โดนจับ ไม่อย่างนั้นพวกนั้นคงไม่เอาทั้งพี่และฉันไว้แน่ ฉันจะมาบอกพี่แค่นี้แหละ แล้วก็เลิกยุ่งกับเรื่องของฉันด้วย” ปัทมาพูดจบจะออกจากห้อง ปานตะวันร้องเรียกไว้ ขอร้องน้องอย่าทำตัวแบบนี้ เธออยากให้น้องตั้งใจเรียนไม่อยากให้แม่เป็นห่วง ปัทมาสวนทันทีว่าไม่จริง แม่ไม่เคยห่วงตนไม่เคยสนใจด้วยซ้ำว่าตนจะกลับบ้านเมื่อไหร่ มีแต่พี่ปานเท่านั้นที่แม่ห่วงและสนใจไม่อย่างนั้นคงไม่ตีพี่ขนาดนี้
“ถ้าปัทจะทำแบบนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจ พี่ว่าไม่เห็นมันจะดีตรงไหน มีแต่เสียกับเสีย กลับไปเรียน ปัทมีโอกาสดีกว่าพี่ ได้เรียนหนังสือทำให้แม่ภูมิใจ”
“ไม่อ่ะ โอกาสที่ได้รับจากพี่ เงินพี่ บุญคุณของพี่ มันจะทับหัวฉันตายแล้วเนี่ย พอซะทีเถอะ” พูดจบปัทมาออกจากห้อง ปานตะวันมองตามเหนื่อยใจ
ooooooo
อานนท์ถึงกับถอนใจเซ็งเนื่องจากเปิดเทปแคสติ้งนักร้องให้ปพลดูเป็นร้อยรายแล้ว แต่ไม่มีใครถูกใจสักคน จึงปิดจอภาพถามอย่างไม่อ้อมค้อมว่านักร้องแบบไหนกันที่เขาชอบ
“บอกไม่ถูก แต่ถ้าเจอมันก็รู้เอง คงมาจากฝีมือของคนคนนั้น หรือไม่ก็เซ้นส์บางอย่างถ้าใช่มันก็คือใช่”
“แล้วนี่ฉันจะต้องไปหาคนแบบนั้นให้แกได้ที่ไหนวะไอ้พล”
ระหว่างนั้นปนิตาพาซาร่านักร้องที่ตัวเองหมายมั่นปั้นมือจะให้เป็นนักร้องคนแรกของค่ายเพลงเข้ามาในห้อง แนะนำให้สองหนุ่มรู้จัก แทนที่ซาร่าจะยกมือไหว้สวัสดีกลับพยักหน้าทักทาย ทำเอาอานนท์อึ้งกับมารยาทไม่ดีของอีกฝ่าย ปนิตาคุยอวดให้ฟังว่าซาร่าทั้งร้องเต้นเล่นดนตรีได้สารพัดอย่าง พร้อมจะเป็นนักร้องเบอร์แรกของค่ายเพลงแห่งนี้...
ซาร่าทำได้อย่างที่ปนิตาคุยอวด ร้องเพลงดีและเต้นเก่ง เพียงแต่ยังไม่โดนใจ ปพลอยากดูความสามารถอื่นของเธอ ขอให้เธอลองเล่นเปียโนให้ฟัง เธอไม่ยอมทำตามบอกว่าชอบร้องแล้วก็เต้นมากกว่าและถ้าจะให้เธอทำเพลงเธอก็อยากร้องแล้วก็เต้น ปพลไม่ค่อยพอใจนักที่เธอไม่ทำตามสั่ง ยืนกรานว่าต้องการให้เธอแสดงความสามารถอย่างเต็มที่
เพื่อดูแนวทางว่าอะไรคือสิ่งที่เหมาะสมสำหรับเธอ ปนิตาเห็นท่าไม่ดีรีบตัดบท
“เอาเป็นว่าถ้าวันนี้ซาร่ายังไม่พร้อมที่จะโชว์ความสามารถอื่นๆก็ไว้วันหลังแล้วกันเนอะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน ไปจ้ะซาร่า” ปนิตาว่าแล้วพาซาร่าออกจากห้อง ปพลมองตามก่อนหันไปทางอานนท์
“น่าสนใจนะ แต่ฉันว่ามั่นใจเกินเหตุไปหน่อย ฉันเข้าใจนะว่าการเป็นนักร้องก็ต้องมาจากสิ่งที่ชอบ แต่การตลาดมันก็ต้องมีจุดขายที่เหมาะสมกับศิลปิน อีกอย่างฉันก็อยากมีตัวเลือกอื่นอีก”
“โอเคงั้นก็หาวนไป”
“ทุกอย่างต้องดีที่สุดเพราะฉันจะไม่ยอมให้พ่อดูถูกฉันอีกว่าทำอะไรก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ” พูดเรื่องนี้ขึ้นมาปพลอดนึกย้อนไปถึงเมื่อครั้งที่พ่อยุบโปรเจกต์ที่เขาอุตส่าห์ทำอย่างหามรุ่งหามค่ำไม่ได้ หาว่าไม่คุ้มที่จะลงทุน แถมเป็นธุรกิจที่เราไม่ถนัดยิ่งทำให้เสี่ยงมากขึ้น เขาทักท้วงทำไมไม่ลองดูก่อน