ตอนที่ 1
ผู้ใหญ่มีเหล่ลูกบ้านคนหนึ่งที่ปากไวอย่างเคืองๆ “พอได้แล้วไอ้จอม” แล้วพูดกับกำนันต่อ “มันก็ไม่ได้เฮงซวยอะไรนักหนาหรอก ฉันไม่สนว่านายจะได้โฉนดใบนี้มายังไง แต่มันต้องปลอมแน่ๆ ที่ดินผืนนี้มันเป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าฉันแล้ว ถามพวกชาวบ้านดูก็ได้”
“ใช่ๆ” พวกชาวบ้านส่งเสียงเซ็งแซ่ กำนันอึ้งชักไม่แน่ใจ พอชาวบ้านพูดโพล่งว่าต้องจับส่งตำรวจ กำนันสะดุ้งโหยงแล้วเถียงคอเป็นเอ็น นฤมลเห็นท่าไม่ดีถอยห่างออกมาคุยโทรศัพท์กับลูกสาวคนโต
“ก็นายโภคินน่ะสิ ตกลงมันไปซื้อที่ดินให้แกจริงรึเปล่า”
“ก็เรียบร้อยแล้วนี่นา หนูก็ไปดูที่มาแล้ว โภคินเขาก็เอาโฉนดไปให้แม่แล้วไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ แต่แม่กำลังสงสัยว่ามันเป็นโฉนดปลอม ฟังนะยัยบุษ ตอนนี้พ่อกับแม่มาดูที่ดินตามแผนที่ที่แฟนแกเขียนให้ ไม่มีองุ่นซักต้น แถวนี้ก็ไม่เห็นมีใครเขาปลูกองุ่นกันเลย”
“แม่ไปดูผิดที่หรือเปล่าคะ”
“ไม่ผิดหรอก ที่มันแย่ไปกว่านั้นก็คือที่ผืนนี้เจ้าของคือผู้ใหญ่มี โฉนดที่พ่อถืออยู่นี่มันเหมือนกับโฉนดของเขาทุกอย่าง ผิดกันก็แต่ชื่อเจ้าของที่ดินนี่แหละ”
“เดี๋ยวบุษจะถามโภคินให้รู้เรื่อง แม่ใจเย็นๆก่อนนะคะ”
“ใจแม่ร้อนเป็นไฟแล้ว...ดูซิ เจ้าของที่กับพวกชาวบ้านจ้องกันตาเขม็ง พ่อกับแม่อายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว”
“โอเคค่ะแม่ เดี๋ยวบุษจะคุยกับเขาให้รู้เรื่อง แม่บอกพ่อกลับมาก่อนเถอะค่ะ แค่นี้นะคะ”
บุษบาบรรณตัดสายจากแม่แล้วพยายามโทร.หาโภคินแต่ได้ยินเสียงตอบรับเหมือนเดิมว่าไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...ด้วยความร้อนใจเธอรีบรุดไปยังห้องพักของเขาแต่ไม่เจอตัว สอบถามป้าห้องข้างๆถึงรู้ว่าเขาย้ายออกไปเกือบอาทิตย์
“ย้ายออกไปแล้ว!”
“ใช่...แต่ย้ายออกไปก็ดีนะ มีปาร์ตี้เสียงดังเกือบทุกคืน ผู้หญิงเดินเข้าเดินออกแทบทุกวัน เด็กผู้หญิงสมัยนี้ก็เหลือเกิน เห็นผู้ชายหล่อๆหน่อยก็ไม่สนใจอะไรแล้ว”
บุษบาบรรณช็อกมาก เดินเหม่อลอยออกไปด้วยความเสียใจ คิดย้อนไปเมื่อหลายวันก่อนที่โภคินพาเธอไปดูไร่องุ่นสวยงามแห่งหนึ่ง เธอดีใจมากแม้จะเสียดายเงินจำนวนมากที่ต้องไปเอาจากพ่อกำนันมา แต่มันทำให้ความฝันของเธอเป็นจริง
อังคณารู้ข่าวของเพื่อนรักก็รีบมาหา เห็นเพื่อนร้องห่มร้องไห้ยิ่งเป็นเดือดเป็นแค้นแทน
“ฉันไม่อยากจะด่าเลยว่ามันชั่ว ไม่เลวจริงมันทำไม่ได้นะเนี่ย”
“ฉันผิดเองที่ไว้ใจโภคิน รักเขาหมดใจไม่เคยระแวงในตัวเขาสักนิด ฉันมันโง่เอง”
“อย่าโทษตัวเองสิบุษ คนมันเลวต่อให้แกระวังมากแค่ไหน มันก็ต้องหาโอกาสทำเลวๆจนได้นั่นแหละ”
“ฉันสงสารพ่อกับแม่เหลือเกิน พ่อไม่เหลืออะไรแล้ว พ่อต้องมาสิ้นเนื้อประดาตัวก็เพราะฉัน”