ตอนที่ 9
ฮุ่ยเซี้ยงอ้าปากค้างไม่อยากเชื่อว่าทรงวาดจะร่วมมือกับรณชิตวางแผนตลบหลัง ทรงวาดเหยียดยิ้มเย็นก่อนเล่าถึงบทสนทนาเมื่อวันก่อนที่เขา รณชิตและโอฬารวางแผนร่วมกัน...
ทรงวาดเปิดฉาก “ถ้าคนที่ถูกจับข้อหาพยายามฆ่าจ่าไม่ใช่อาเตี๋ยงแต่เป็นอาเจ็กของผม...ตอนนี้จะเป็นยังไง”
โอฬารนิ่วหน้าก่อนเอ่ยเสียงเครียด “หกห้องก็คงแตก พวกอื่นๆที่อยากใหญ่หรืออยากได้ผลประโยชน์ของหกห้องคงฮือกันออกมา มีหวังเกิดสงครามย่อยๆ แต่ยังไงผมก็เชื่อว่าเราควบคุมอยู่”
“ครับ...ถ้าไม่มีคนเติมเชื้อไฟเข้าไปอีก”
ข้อสันนิษฐานของทรงวาดทำให้โอฬารอึ้งไปรณชิตรีบวิเคราะห์สถานการณ์ต่อ
“การที่เฮ้งเตี๋ยงถูกจับแทนเม่งฮงก็ต้องถือว่าผิดแผนไอ้คนเสี้ยม”
“ใช่...แผนของพวกมันยังไม่สำเร็จ และทางเดียวที่จะทำได้ก็คือต้องใส่ร้ายตำรวจให้หนักกว่านี้”
“ถ้าเฮ้งเตี๋ยงตายขณะที่อยู่ในความควบคุมของตำรวจ ร้อยทั้งร้อยก็ต้องคิดว่าตำรวจทำ”
“เพราะฉะนั้นอาเตี๋ยงคือเหยื่อล่อชั้นดีที่จะพาพวกมันมาติดกับ!”
ไม่ใช่แค่ฮุ่ยเซี้ยงที่ตะลึงงันกับแผนตลบหลังของทรงวาด แม้แต่ฤทธิ์ก็คิดไม่ถึงแต่ต้องแกล้งทำไม่รู้เรื่อง
“ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหมเถ้าแก่ ผมจะได้กลับโรงพัก”
“ครับ...ขอบคุณมากนะครับ แล้วก็ต้องขอโทษด้วยที่เพิ่งแจ้งเรื่องนี้ล่วงหน้าไม่กี่นาที”
“ไม่เป็นไร...ถ้าเป็นคำสั่งยังไงผมก็ต้องทำอยู่แล้ว”
พูดจบก็แยกไป ทิ้งทรงวาดให้มองตามนิ่งๆ...
คาใจท่าทางไม่ปกติของฤทธิ์
เฮ้งเตี๋ยงยืนงงพักใหญ่กว่าจะตั้งสติได้ว่าทั้งหมดเป็นแผนของทรงวาดกับรณชิต ทรงวาดเดินไปตบบ่า
“เป็นยังไงบ้างอาเตี๋ยง ขอโทษด้วยนะที่อั๊วใช้ลื้อเป็นเหยื่อล่อโดยไม่บอกล่วงหน้า”
“ไม่เป็นไรหรอกเฮีย ถ้าจับคนที่ฆ่าอาเง็กได้ก็ถือว่าคุ้ม เพียงแต่อั๊วไม่คิดว่าจะเป็นโอ๊วแปะเท่านั้นแหละ”
พูดพลางปรายตาไปทางฮุ่ยเซี้ยงก่อนกระโดดถีบยอดอกอีกฝ่าย
“อั๊วไม่ถามตอนนี้หรอกว่าลื้อฆ่าน้องสาวอั๊วทำไม เอาไว้เจอกันในคุกอั๊วจะถามรวบยอดทีเดียวเลย”