ตอนที่ 12
แมงเม่าเล่าให้ขันทองฟังถึงความเชื่อและศรัทธาในเวทมนตร์ที่จะช่วยบ้านเมืองได้ของกรมขุนวิมล
“ฉันรู้ว่าเสด็จทรงห่วงบ้านเมือง แต่หากพิธีไสยศาสตร์เช่นนี้ช่วยได้จริงก็คงไม่มีการเสียบ้านเสียเมืองกันเกิดขึ้นดอกเจ้าค่ะ ยิ่งเห็นพิธีเลอะเทอะเช่นนี้ก็ยิ่งหดหู่เหลือเกินเจ้าค่ะ”
“ปากคอเราะร้ายนัก ถึงกับนินทากรมขุนท่านว่าทำพิธีเลอะเทอะเชียวรึ”
“คนเราหากแม้แต่ความจริงก็พูดไม่ได้แล้วจะเป็นผู้เป็นคนไปไยเจ้าคะ” แมงเม่ามองไปรอบๆถามว่า “คุณพระพาฉันมาที่นี่ทำไมเจ้าคะ”
ขันทองพาแมงเม่าเดินมาที่ท้ายวัง บริเวณทางระบายน้ำที่ตนใช้มุดแอบออกนอกวังบ่อยๆ แล้วชี้ที่ทางระบายน้ำบอกแมงเม่าว่า
“ทางระบายน้ำนี้ ฉันใช้เป็นช่องทางลับเพื่อหลบออกนอกวัง หากเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นเมื่อใด เจ้าจงใช้ทางนี้หลบหนีเอาตัวรอดเถิด” แมงเม่าตกใจถามว่าเรื่องสำคัญเช่นนี้คุณพระบอกตนทำไม ขันทองหน้าขรึมมองแมงเม่านิ่ง ถามว่า “ยังมีสิ่งใดสำคัญไปกว่าชีวิตเจ้าอีกรึ เจ้าตัวดี”
แมงเม่าโผกอดขันทองด้วยความซึ้งใจ ขันทองตกใจทำอะไรไม่ถูก แต่แมงเม่าก็ยังพูดอย่างซึ้งใจว่า
“คุณพระเป็นมิตรในยามยากของฉันโดยแท้ มิว่าฉันมีภยันตรายใด คุณพระก็ช่วยเหลือ คอยห่วงใยฉันอยู่ตลอด ขอบพระคุณมากนะเจ้าคะ หากเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นจริง ฉันจะใช้ทางลับนี้พาเสด็จพระองค์หญิงหนีไปเองเจ้าค่ะ”
ขันทองประทับใจในความกตัญญูของแมงเม่า แต่เมื่อถูกกอดก็ประหม่าทำอะไรไม่ถูก บอกแมงเม่าว่าตนไม่สันทัดความซาบซึ้งนักดอก ปล่อยตนเถิด แต่แมงเม่ายิ่งกอดแน่นอ้อนว่า
“ไม่ปล่อยเจ้าค่ะ ฉันกอดคุณพระอย่างนี้แล้วรู้สึกอบอุ่นใจ คลายทุกข์ไปได้มาก ขอฉันกอดต่ออีกสักหน่อยนะเจ้าคะ”
ขันทองเอ็นดูความขี้อ้อนของแมงเม่า ยกมือลูบผมอย่างอ่อนโยน แมงเม่ายังกอดขันทองแน่น ถอนใจพูดอย่างโล่งอกว่า
“เคราะห์ดีนักที่คุณพระมิใช่ชาย คงไม่มีผู้ใดดุด่าฉันได้เต็มปากว่าทำตัวไม่งามที่มาถูกเนื้อต้องตัวชายเช่นนี้”
“ฉันมีความลับอีกอย่างที่จะบอกต่อเจ้า” ขันทองตัดสินใจที่จะบอกความจริงแก่แมงเม่า
“กระไรเจ้าคะ”
“ฉันไม่ใช่ขันที” แมงเม่าชะงักอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ขันทองยืนยันชัดเจนว่า “ฉันเป็นชายแท้ที่ปลอมตัวเป็นขันทีเพื่อเข้ามาอยู่ในวัง”
แมงเม่าตกใจสุดขีดผลักขันทองออกไปทันที ขันทองกระอักกระอ่วนใจทำอะไรไม่ถูก แมงเม่ามองขันทองอย่างตกใจ ไม่อยากเชื่อ “คุณพระพูดกระไรออกมา รู้ตัวหรือไม่เจ้าคะ”
“รู้ตัวสิ รู้อยู่ตลอดเวลาว่าใจฉันคิดอย่างไรที่ฉันพูดความจริง คนเราหากแม้แต่ความจริงก็พูดไม่ได้แล้วจะเป็นผู้เป็นคนไปไย” ขันทองย้อนคำพูดของแมงเม่ามาถาม แมงเม่าสับสนว้าวุ่นใจจนน้ำตาคลอ ขันทองบอกอีกว่า “ในวังนี้มีเจ้าคนเดียวเท่านั้นที่รู้”
แมงเม่าได้แต่จ้องหน้าขันทอง แววตาสั่นระริกแล้วหันหลังวิ่งตะบึงไปอย่างสับสน ขันทองมองตามถอนใจยาว รู้สึกสบายใจที่ได้บอกความจริงที่เป็นความลับสุดยอดของตนให้แมงเม่ารู้แล้ว...
ooooooo