ตอนที่ 12
หัวค่ำนี้ที่ค่ายพระยาตาก มีทหารและชาวบ้านจำนวนหนึ่งมารออยู่ที่หน้ากระโจมของพระยาตาก โดยมีหลวงพิชัย ม่วงและพันหาญยืนอยู่ในกลุ่มชาวบ้าน เยื้อนเองก็อยู่ในกลุ่มชาวบ้าน
พระยาตากเดินออกจากกระโจมมองหน้าทุกคนก่อนตัดสินใจพูดด้วยเสียงอันดังและหนักแน่นว่า
“ที่ฉันเรียกทุกคนมาพร้อมกันในคืนนี้เพราะฉันมีเรื่องสำคัญจะบอก ฉันมั่นใจแล้วว่าอโยธยาจะเสียแก่ข้าศึกเป็นแน่แท้ แต่ฉันจะไม่ยอมก้มหัวให้พวกอังวะเป็นอันขาด คืนนี้ฉันจะพาทุกคนฝ่าวงล้อมของอังวะออกไป เพื่อไปตั้งหลักที่หัวเมืองตะวันออก แล้วรวบรวมผู้คนกลับมากู้อโยธยาคืนมา”
ทันใดนั้นเนเมียวสีหบดีก็จ่อคบไฟเข้ากับสายชนวนปืนใหญ่ยิงถล่มทันที
หลวงพิชัยพูดเสียงดังว่าอังวะเปิดฉากยิงปืนใหญ่แล้ว เป็นโอกาสดีที่เราจะตีฝ่าออกไป
“พวกเราจะไปกันในคืนนี้ ผู้ใดจะติดตามท่านเจ้าคุณก็ตามมา” ม่วงตะโกนทันที
ทหารผู้หนึ่งกล่าวอย่างไม่พอใจว่าเสียแรงที่ตนสู้ตายเพื่อท่านเจ้าคุณ เพลาคับขันมาทิ้งกันไปได้อย่างไร ทหารอีกคนหนึ่งโมโหโต้ว่า
“หรือเอ็งจะต้องให้ตายวะ เห็นอยู่ว่าสู้ไม่ได้หนีไปตั้งหลักรอกลับมาเอาชัยไม่ดีกว่ารึ”
ทั้งทหารและชาวบ้านแตกเป็นสองฝ่าย เถียงกันเสียงขรมระหว่างฝ่ายที่จะสู้ตายและฝ่ายที่จะหนีไปตั้งหลัก
“จนป่านฉะนี้ยังจะโต้เถียงกันอีก ควรแล้วที่ต้องเสียเมืองให้กับอังวะ” เยื้อนงึมงำอย่างรำคาญใจ
ooooooo
ทหารอังวะยังคงระดมยิงปืนใหญ่ตลอดเวลา ท่ามกลางเสียงเนเมียวสีหบดีสั่งระห่ำ
“ยิงเข้าไป กระสุนแลดินปืนเรามีมากนัก ยิงถึงหนึ่งปีก็ไม่หมด จงถล่มอโยธยาให้ราบเป็นหน้ากลอง”
ส่วนที่ค่ายพระยาตาก ชาวบ้านยังเถียงกันไม่หยุดแข่งกับเสียงปืนที่ดังถี่ขึ้นทุกที พระยาตากจึงตะโกน
“หยุดโต้เถียงกันได้แล้ว...ฉันรู้ว่าการตัดสินใจเช่นนี้ย่อมมีคนไม่เห็นด้วย แต่หากเราต้องการช่วยอโยธยาแลขับไล่อังวะ สิ่งแรกที่เราต้องมีคือชีวิต เพราะคนตายไม่อาจปกป้องแลขับไล่ผู้ใดได้ เหตุนั้นเราจึงต้องกล้ำกลืนความอัปยศในวันนี้ เพื่อรักษาชีวิตเอาไว้”
เสียงโต้เถียงกันของชาวบ้านเริ่มเบาลง หลายคนเงียบฟังพระยาตากพูด
“ฉันมีเชื้อสายจีน คนจีนมีคำกล่าวว่า ‘ขุนเขายังอยู่ ไม่กลัวไร้ฟืน’ คนเราหากยังมีชีวิตก็สามารถพลิกร้าย ให้กลายเป็นดีได้ ขึ้นอยู่กับพวกเจ้า จะยังเชื่อใจฉันหรือไม่”
ทหารคนที่ด่าว่าตนสู้ตายกับท่านเจ้าคุณเพลาคับขันจะมาทิ้งกันได้อย่างไร ก็บอกว่าจะลองเชื่อท่านเจ้าคุณดูอีกสักครั้ง มีเสียงทั้งจากทหารและชาวบ้านขานรับมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเสียงโต้แย้งก็เงียบไป ทุกคนสามัคคีกันขึ้นมาอีกครั้ง