ตอนที่ 12
เมื่อได้เวลาอาหารกลางวันเฟื่องลดามาดูที่ห้องเตรียมอาหารชมว่าน่าทานจังเลย ดวงใจบอกว่า
“ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าไก่ค่ะ ของโปรดของคุณทัฬห์เลย สาไปตั้งโต๊ะได้แล้ว”
“ไม่ต้องก็ได้ค่ะ ลดาจะเอาไปให้คุณทัฬห์ทานในห้องทำงาน ยังทำงานค้างอยู่”
ดวงใจถามว่าคุณครูจะทานในห้องกับคุณทัฬห์เลยใช่ไหม
“ไม่ค่ะ จัดเฉพาะของคุณทัฬห์ เดี๋ยวลดาออกมาทานข้างนอกค่ะ”
เมื่อดวงใจจัดเสร็จ เฟื่องลดาชมว่าหอมน่าทานจัง สาจะยกไปให้ เธอบอกว่าไม่เป็นไรตนยกไปเองได้ ดวงใจเอามือแตะแขนเฟื่องลดา ขอบคุณที่ดูแลคุณทัฬห์ เฟื่องลดายิ้มน่ารักแล้วเดินออกไป
ดวงใจมองอย่างปลื้มและสบายใจมาก
ทัฬห์มองก๋วยเตี๋ยวราดหน้าไก่อย่างพอใจ เฟื่องลดาบอกว่าป้าใจบอกว่าเป็นของโปรดของเขา ทานให้หมดเลยจะได้ทานยา ทัฬห์รับคำล้อๆ
“ครับคุณหมอ”
พอทัฬห์ลงมือทานมือเดียว ก๋วยเตี๋ยวลื่นจากช้อนหมด เขาพยายามตักใหม่ก็ลื่นหมดอีก เฟื่องลดาจึงอาสาตักให้ ทัฬห์ส่งช้อนให้โดยดี เฟื่องลดาตักเส้นก๋วยเตี๋ยวแล้ววางไว้หันไปรินน้ำ ทัฬห์ยกช้อนจะทานแล้วนึกอะไรได้ ยิ้มเจ้าเล่ห์แกล้งทำเส้นก๋วยเตี๋ยวไหลจากช้อนจนหมด ทำเป็นบ่น...
“แย่จริง ทำไมเส้นมันลื่นแบบนี้นะ ยิ่งหิวๆอยู่ ป้าใจน่าจะทำอะไรง่ายๆ ทานไม่ถนัดเลย”
“เอ่อ...งั้นให้ฉัน...ป้อนให้ดีไหมคะ”
แม้จะดีใจที่เข้าทางตน แต่ทัฬห์ก็ทำเป็นเกรงใจ เฟื่องลดาบอกว่าไม่เป็นไร ตนเข้าใจว่าแขนหักแบบนี้ทำอะไรก็ไม่ถนัดอยู่แล้ว เฟื่องลดาเขินก้มหน้าก้มตาป้อน จนทัฬห์แซวว่า
“ไม่มองหน้าเดี๋ยวป้อนเข้าจมูกแล้วจะทำยังไง”
“ก็สมน้ำหน้าไงคะ” เฟื่องลดาตอบขำๆ ทัฬห์เลยหัวเราะไปด้วย ทำให้ทั้งสองสนิทกันมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เฟื่องลดาป้อนก๋วยเตี๋ยวราดหน้าไก่จนหมดชามแล้วไปเอามาเพิ่มอีกจนดวงใจสงสัยว่าทำไมวันนี้ คุณทัฬห์เจริญอาหารจัง มารู้ทีหลังว่าเพราะเฟื่องลดาป้อนให้ สาพูดขำๆกับดวงใจว่า
“คุณทัฬห์เนี่ยเห็นขรึมๆนิ่งๆ ขี้อ้อนเก่งเหมือนกันนะป้า”
ฝ่ายทัฬห์พยายามทานถึงสองชาม พอเฟื่องลดาถามว่าจะเอาอีกไหมก็บอกว่าพอแล้ว เธอไปพักเถอะตนจะพักอ่านหนังสือหน่อย พอเฟื่องลดาออกไป ทัฬห์ก็ลูบท้องอย่างอึดอัด...
ooooooo
เฟื่องลดาดูแลทัฬห์ด้วยใจ จนทั้งสองสนิทกายสนิทใจกันโดยไม่รู้ตัว ทัฬห์ก็มีเหตุอ้อนให้เธอทำอะไรให้มากขึ้นทุกที ได้ลูกแก้วช่วยเชียร์ด้วยก็ยิ่งสะดวกใจสบายกาย แม้แต่การสระผมก็ให้เฟื่องลดาทำให้
“ทำไมเธอถึงยอมทำให้ฉันล่ะ ทั้งสระผม ป้อนอาหาร ช่วยใส่เสื้อ” ทัฬห์ถาม เห็นเธอเขินๆก็ถามต่อ “เธอไม่โกรธไม่เกลียดฉันแล้วใช่ไหม”
เฟื่องลดาก้มหน้าเขิน ทัฬห์ลุ้นรอคำตอบ แต่ลูกแก้วก็เปิดประตูเข้ามา ถามขัดจังหวะว่า
“คุณพ่อเสร็จหรือยังคะ...อ้าว ยังเช็ดผมไม่เสร็จอีกเหรอคะ”
เฟื่องลดารีบลุกขึ้นเอาผ้าไปตาก ทัฬห์มองตาม อย่างเสียดาย ทัฬห์ดึงลูกแก้วเข้าไปกอดหอมอย่างมันเขี้ยว พึมพำ “ลูกแก้วนะลูกแก้ว”
“คะ มีอะไรคะ”
“ไม่มีอะไรค่ะ พ่อแค่อยากหอมลูกแก้วค่ะ” ทัฬห์ระดมหอมลูกแก้วแต่ตามองเฟื่องลดา
ลูกแก้วมัวแต่หัวเราะเพราะจั๊กจี้ เลยไม่เห็นพ่อกับพี่ลดายิ้มให้กัน
ฝ่ายสิริโสภาไปหาฤกษ์แต่งมาได้แล้ว แต่เป็นต้นปีหน้า เธอนัดไทว์มาคุยที่ร้านอาหารบ่นว่าอีกตั้งนานเลย แต่ไทว์ไม่กระตือรือร้น ไม่รู้สึกอะไรเลย หรือเขาไม่อยากแต่งเร็วๆ
ไทว์ถามว่าก็เธอไปหาฤกษ์เองแล้วจะให้ตนทำยังไง เธอบ่นว่ามันนานเกินไป ใครๆอาจจะเม้าท์เราได้ ไทว์บอกให้เลิกสนใจใครๆพวกนี้เสียทีได้ไหม เพราะการแต่งงานเป็นเรื่องของเราสองคน
“เอ๊ะ...ไทว์นี่ยังไงคะ ก็เรายังอยู่ในสังคมจะไม่ให้สนใจใครๆได้ยังไง” เธอเสียงดังไม่พอใจ
“งั้นก็แล้วแต่สิก็แล้วกัน”
“สิชักจะสงสัยแล้วนะว่าไทว์รักสิเท่าที่สิรักไทว์หรือเปล่า อะไรๆสิก็เป็นคนจัดการทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเรื่องขอแต่งงาน ไม่ว่าจะเรื่องหาฤกษ์”
“ผมเป็นคนขอให้สิทำเหรอ ก็สิอยากจะเป็นคนจัดการทั้งหมดเอง”
สิริโสภาลุกพรวดคว้ากระเป๋าเดินออกไปอย่างไม่พอใจมาก ไทว์มองแต่ไม่ตาม
ooooooo