ตอนที่ 8
ยุพราชกับอ่อนคำดูแลใกล้ชิดเจ้าจ้อยมากเกินไปจนเธอรู้สึกอึดอัด ต้องบอกให้ออกห่างบ้างขอกินอาหารแบบไม่ต้องมีใครจับจ้อง
อ่อนคำเข้าใจ แต่ยุพราชยังตื๊อเพราะอยากอยู่ใกล้คอยอารักขาเจ้าจ้อย โดยเอาคำสั่งของอกานซิงห์ขึ้นมาอ้าง
“มันเป็นหน้าที่ของข้าเฮาที่ต้องดูแลเจ้าจ้อยอย่างใกล้ชิด ไม่งั้นพ่อจะต่อว่าเฮาได้”
“แต่เฮาอยู่คนเดียวได้”
“ข้าเฮาเต็มใจถวายการอารักขาเจ้าค่า”
อ่อนคำรำคาญแทนเจ้าจ้อย เดินเข้ามาจับแขนยุพราช บอกว่าเจ้าจ้อยอยากอยู่คนเดียว เขาไม่รู้จริงๆหรือแกล้งโง่กันแน่...พูดจบก็ลากแขนยุพราชออกไปโดยไม่สนใจว่าเขาจะฮึดฮัดขัดขืนหรือไม่
“นี่เจ้าทำอะไรของเจ้า เฮากำลังทำหน้าที่ของเฮาอยู่นะ”
“แต่เจ้าจ้อยไล่พวกเราออกมา เจ้าหูหนวกหรือไง”
“เจ้าจ้อยก็พูดไปอย่างนั้นแหละ แต่เจ้าจ้อยไม่ได้หมายความตามนั้นจริงๆหรอก”
“เฮาจะบอกอะไรให้อย่างนะ ความหวังดีจะมีค่าเมื่อคนคนนั้นต้องการ แต่ถ้าไม่...มันจะกลายเป็นความจุ้นจ้าน เข้าใจมั้ย”
“เจ้าจ้อยไม่มีวันรู้สึกอย่างนั้นกับเฮาแน่ เพราะเจ้าจ้อยรู้ว่าเฮาหวังดีกับเธอ”
“คนที่รัก ไม่ต้องพยายามทำอะไรเขาก็รัก แต่คนที่ไม่รัก ต่อให้พยายามแทบตายยังไงก็ไม่รักจำไว้”
ยุพราชอึ้ง เพราะคำพูดของอ่อนคำแทงใจดำเขาเหลือเกิน
“เฮาจะทำให้เจ้าจ้อยรักเฮาให้ได้ เจ้าคอยดูก็แล้วกัน”
ยุพราชผละออกไปอย่างหงุดหงิดหัวเสีย ทิ้งให้อ่อนคำยืนบ่นหน้าเศร้าอยู่ตรงนั้น
“คนที่รัก ไม่ต้องพยายามทำอะไรเขาก็รัก แต่คนที่ไม่รัก ต่อให้พยายามแทบตายยังไงก็ไม่รัก...นี่เฮาบอกยุพราชหรือบอกตัวเฮาเองกันแน่ ทำไมสะเทือนใจแปลกๆเฮ้อ”
ยุพราชอารมณ์ขุ่นมัว เดินไปทางประตูด้านข้างคุ้ม กำชับทหารให้ตรวจเข้ม ถึงเจ้าหลวงกับมหาเทวีไม่อยู่ก็อย่าวางใจ ยิ่งคนน้อย ยิ่งปลอดคน การลงมือของผู้ไม่หวังดีก็จะง่ายขึ้น
เวลานั้นพสุกำลังส่องกล้องมาที่คุ้มจันทรา ดูไปพูดไปกับเผ่าเทพที่กำลังผูกเปลทหารอยู่ใกล้ๆ
“แปลก! บรรยากาศที่คุ้มดูเงียบมาก นอกจากเจ้าจ้อย ไม่เห็นเจ้าหลวง มหาเทวีเลย”
“ฟ้าอาจจะประทานให้เจ้าจ้อยอยู่บ้านคนเดียว”
พสุชะงักแล้วเหล่มองเพื่อนรักที่พูดลอยๆขึ้นมา แต่เผ่าเทพผิวปากเบาๆทำไม่รู้ไม่ชี้ พอพสุหันกลับไปส่องกล้องอีกที คราวนี้เห็นยุพราชเดินตรวจตรามายังด้านหน้าคุ้มบริเวณรั้วประตูทางเข้า
“ยุพราช...”
ชื่อนั้นทำให้เผ่าเทพพูดลอยๆอีกว่า “แต่ฟ้าก็ดันประทานก้างขวางคอมาให้ด้วยนี่สิ”