ตอนที่ 3
เจ้าจ้อยฟังแล้วต้องยอมยื่นแขนให้...พสุเช็ดแขน คอ และหน้าผาก สองคนมองสบตากันเป็นระยะ จนกระทั่งเขาเอาผ้าชุบน้ำเช็ดที่เท้าแล้วเห็นรอยช้ำ จึงหยิบยามาทา เจ้าจ้อยตกใจชักเท้าหนีทันที
“อยู่นิ่งๆสิครับ เท้าองค์หญิงมีรอยฟกช้ำ ผมจะช่วยนวดให้”
“เฮาเดินสะดุดรากไม้น่ะ โอ๊ย!” เจ้าจ้อยร้องลั่นเมื่อพสุลองนวดกดไปที่รอยช้ำนั้น
“แล้วก็เก็บไว้คนเดียว ทำไมองค์หญิงไม่บอกผมว่าปวดเท้า ผมจะได้ให้ยาหรือให้หยุดพัก”
“เฮาทนได้ ไม่ได้ปวดมากเสียหน่อย...ไม่ต้องนวดแล้วหมวด เท้าเป็นของต่ำ ผู้ชายไม่ควรแตะต้องเท้าของผู้หญิง”
“ที่จริงเท้าน่าจะเป็นของสูงนะครับ เพราะมันทำให้เรายืนหยัดสู้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ ถ้าคนเรารังเกียจเท้าเสียแล้ว เราคงต้องใช้มือเดินแทนเท้ากัน”
“จริงสินะ เราต้องภูมิใจในเท้าของเราสิ ถึงจะถูก”
พสุยิ้มพอใจที่ทำให้เจ้าจ้อยเข้าใจได้ แล้วก้มหน้าก้มตานวดเท้าต่อไปอย่างตั้งใจ เจ้าจ้อยมองพสุอย่างรู้สึกดีมากๆกับผู้ชายคนนี้
“ขอบคุณนะปี้จายแสง”
“ไม่เป็นไรนางเจิ่ง ปี้จายแสงเต็มใจ”
ทั้งคู่ยิ้มให้กัน บรรยากาศกำลังหวานชื่น พลันเจ้าจ้อยทำจมูกฟุดฟิดได้กลิ่นไหม้ พสุนึกได้ว่าตั้งข้าวต้มเอาไว้เลยแตกตื่นวิ่งพรวดไป เจ้าจ้อยเห็นแล้วอดขำไม่ได้ ...เป็นความสุขเล็กๆน้อยๆที่หาได้ท่ามกลางความยากลำบากเช่นนี้
ใกล้ค่ำกลุ่มของอันโตนตามมาถูกทิศทาง แต่ไม่เจอแม้เงาของเจ้าแสงจันทาองค์หญิงแห่งเมืองจาย เมื่อสำรวจดูแล้วว่าทางที่นางหนีไปนั้นรถเข้าไม่ได้ อันโตน จึงสั่งทหารของตนให้ใช้วิธีปฏิบัติการกองโจรภาคพื้นดินที่ถนัดให้ทุกคนเตรียมสัมภาระเพื่อจะเดินเข้าป่ากัน...
เวลานั้นเองข้าวต้มกับปลาแห้งที่พสุทำเสร็จสรรพแล้ว เขายกมาให้เจ้าจ้อย แต่เธอไข้ขึ้นลุกไม่ไหว เขาจึงอาสาป้อนให้ แต่กินได้สองสามคำเจ้าจ้อยก็บอกพอแล้ว ตนกินไม่ลง
“กินเยอะๆสิองค์หญิง เดี๋ยวไม่มีแรงเดินทางต่อนะ เอางี้ ถ้าองค์หญิงยอมกินข้าว ผมจะเล่าเรื่องของผมให้ฟัง”
เจ้าจ้อยนิ่งมอง พสุทำหน้าคะยั้นคะยอ และเมื่อเธอยอมฝืนกินข้าวต้มที่ป้อนให้ พสุก็ทำตามที่พูด
“องค์หญิงลองทายซิว่าพ่อผมทำงานอะไร”
“คุณเป็นทหาร พ่อของคุณก็น่าจะเป็นทหารเหมือนกัน”
“ผิดครับ พ่อของผมเป็นตำรวจ”
“น่าแปลก พ่อของคุณเป็นตำรวจ ทำไมคุณถึงเลือกเป็นทหารล่ะ”
“เพราะคุณลุงพี่ชายแม่ผมเป็นทหาร ตอนผมไปเรียนมัธยมปลายที่พระนคร แม่ผมฝากไปอยู่บ้านลุง ผมเห็นเหรียญกล้าหาญของท่าน และได้ฟังเรื่องราวต่างๆ มากมายก็ประทับใจ ผมตัดสินใจอยู่นานมากว่าจะเลือกอะไรระหว่างทหารกับตำรวจ คุณพ่อผมช่วยให้ผมตัดสินใจง่ายขึ้นเมื่อท่านบอกว่า ไม่ว่าอาชีพไหนต่างก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือปกป้องประเทศชาติและบ้านเมือง ผมก็เลยเลือกสิ่งที่ผมชอบมากกว่า คือเป็นทหาร”