ตอนที่ 9
เมื่อนวียาปรึกษากับโค้ชยักษ์ กิตติพัศ และกิตติยา กิตติยาบอกว่าตนมีคลิป นวียาบอกว่าคลิปนั้นคุณอรแสดงตัวเป็นแม่ต่างหาก โค้ชบอกว่าหาหลักฐานไม่ได้ก็ต้องหาพยาน เสนอให้หาพยานตอนพายตกบันไดว่ามีใครอยู่ในเหตุการณ์บ้าง นวียาบอกว่าตนก็ไม่รู้เพราะรู้เรื่องตอนที่พายอยู่โรงพยาบาลแล้ว
กิตติพัศฟังแล้วเครียด จึงไปขอให้ศรุดาเป็นพยานเรื่องอรจิราไล่เธอด้วยเหตุผลไม่สมควรและเรื่องพายตกบันได ศรุดาถามว่าทำไมต้องทำอย่างนั้นด้วย
“ดา...ตอนนี้คุณได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้ว ทั้งงาน ความฝัน หรือแม้แต่ความรัก และถ้าคิดดูดีๆคุณได้ประโยชน์นะ คุณจะได้ไปเริ่มต้นสร้างครอบครัวใหม่กับนายพาทิศที่ไม่มีพันธะแล้วไง นี่นามบัตรทนาย ติดต่อเขานะถ้าคุณโอเค”
กิตติพัศพูดด้วยน้ำเสียงประชดและวางนามบัตรทนายให้ ศรุดาเลยประชดบ้างว่าเขาเองก็ได้ไปเป็นครอบครัวเดียวกับนวียาสินะ
“ถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็ดีต่อทั้งคุณและผมไม่ใช่เหรอ ผมก็มีความสุขกับนวียา แล้วคุณก็คงได้มีความสุขกับนายพาทิศ...จริงไหม” กิตติพัศจับสองแขนศรุดาจ้องหน้าถาม
ต่างมีอารมณ์ประชดประชันด้วยอารมณ์แอบแฝง กิตติพัศทนไม่ได้รวบตัวศรุดาเข้าไปกอด เธอดิ้นจนหลุดแล้วตบหน้าเขาอย่างแรง วินาทีนั้นพาทิศมาเห็นพอดีตรงเข้ากระชากกิตติพัศออกมา แล้วศึกชิงนางก็ระเบิดขึ้นทั้งชกต่อยกันนัวเนีย
ศรุดาทำหน้าที่หย่าศึกบอกกิตติพัศเสียงเข้มว่ากลับไปได้แล้ว เขาตอบโต้อย่างเจ็บใจว่า
“ใช่สิ...ผมมันควรต้องไป เพราะคนที่ดารักจริงๆมาแล้วนี่” กิตติพัศผละไปอย่างผู้แพ้
ศรุดาบอกพาทิศว่าสถานการณ์อย่างนี้ตนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร พาทิศเองก็สับสนเพราะตอนนี้คุณแม่กำลังทำเรื่องพาพายไปต่างประเทศแล้ว “...แต่ไม่ว่าใครจะได้พายไป สุดท้ายผมก็ต้องเสียพายอยู่ดี”
ศรุดามองพาทิศนิ่ง...ก่อนจะจับมือเขามากุมไว้ด้วยความสงสาร
ooooooo