ตอนที่ 12
อัสดมไม่ยอมหย่า ชลิตาเจ็บแค้นจะหย่าให้ได้ เพราะเขากล้าทำหนังสือฟ้องหย่า กล่าวหาเธอมีชู้ แม้เขาจะแก้ตัวว่ามันเป็นเกมหลอกเด็กเท่านั้น ยิ่งทำให้เธอโกรธ กราดเกรี้ยวใส่
“แต่อัสหยามตา! ใครๆเขารู้กันแล้วว่าอัสมีเมียน้อย ตาไม่ต้องรักษาภาพลักษณ์ครอบครัวอบอุ่นอีก ตาจะหย่า!”
“ตา! ที่ผมอยู่กับตาน่ะ ไม่ใช่สร้างภาพ...ผมรักตา”
ชลิตาไม่ฟังโวยวายว่าเขากล่าวหาตนมีชู้ โสภาโผล่มาได้ยินยืนอึ้ง อัสดมรีบอธิบายว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด โสภาเห็นแผลที่ข้อมือเจ้านายก็จะพาไปทำแผล ชลิตายอม ไปอย่างง่ายดาย ก่อนจะเดินไป หันมาจิกตามองสามี จนเขาไม่กล้าตาม...
ในเวลานั้นถวิกามาบ้านสาทินี ฟังเธอเล่าเรื่องอย่างสะใจ เธอเชื่อว่าชลิตาต้องขอหย่าแน่ ส่วนอัสดมคงทำใจสักพักถึงแต่งงานใหม่ ถวิกาดักคออย่ามโนว่าเจ้าสาวจะเป็นพี่...สาทินีออกตัว ที่ช่วยไม่ใช่เพราะอัสดม แต่ช่วยเพราะเกลียดชลิตา ถวิกาไม่เชื่อพูดเตือนสติ
“คนหมดใจ ต่อให้เราหมดลมหายใจเขาก็ไม่กลับมาดูใจ...เดินหน้าต่อเถอะค่ะ ผู้ชายดีๆยังมีอีก” แล้วทิ้งท้ายว่า ถ้ามีแผนอะไรจะติดต่อมา ว่าแล้วก็ลากลับไป
สาทินีเปลี่ยนสีหน้าจากยิ้มรื่นเป็นสายตาหมั่นไส้ เข่นเขี้ยว “ทำมาเป็นสอน คิดว่าฉลาดนักเหรอไง...คนที่โง่ที่สุดคือคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดที่สุด”
โสภาพาชลิตากลับจากทำแผล อัสดมมีท่าทีเป็นห่วง โสภารายงานว่าแผลไม่ลึกไม่ต้องเย็บ อัสดมเห็นว่ามือเจ็บจะอยู่ช่วยหยิบจับดูแลชลิตา เธอปัดน้ำเสียงแข็งกร้าว
“มือเจ็บ ไม่เท่าเจ็บใจ! อย่าลืมนะอัส พรุ่งนี้ไปหย่ากัน” พูดจบก็เดินเลี่ยงไปห้องอื่น
โสภารายงานอัสดมว่า ที่มาวันนี้เพื่อจะบอกว่า โต๊ะทำงานเขาโดนงัดและ รปภ.โดนตีหัว อัสดมนิ่งรู้แก่ใจ ว่าฝีมือใคร แต่โสภาจะแจ้งจับเพราะเช็กแล้วเป็นฝีมือถวิกา เขารีบห้ามบอกจะเป็นคนลงโทษเอง โสภาเคืองเหน็บเบาๆว่า กลัวเด็กโดนจับ สมควรแล้วที่ภรรยาอยากหย่า
ooooooo
ศุภวาทไม่สบายใจอย่างมาก เมื่อเขาต้องการเอาบริษัทเข้าตลาดหุ้น แต่ที่ปรึกษาวิเคราะห์ว่าต้องจ้างพนักงานออกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ เขาไม่ต้องการให้พนักงานเดือดร้อน
อัสดมต้องทนอับอายกับสายตาพนักงานในบริษัทตัวเอง จากการที่สาทินีมาประจานเมื่อวันก่อน...พนักงานเข้ามาส่งแฟ้มโครงสร้างใหม่บริษัท และรายงานว่า บริษัทศุภวาทกำลังปรับโครงสร้างเพื่อเอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์เหมือนกับเรา อัสดมไม่พอใจที่ศุภวาทแข่งทั้งเรื่องส่งออก แล้วยังมาแข่งกันขายหุ้นอีก...พอรู้ว่า ภรรยาพนักงานคนนี้ทำงานที่บริษัทศุภวาท จึงวางแผนจ้างให้เป็นแกนนำประท้วง จนกว่าศุภวาทจะล้มเลิกเอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์