ตอนที่ 12
ขณะนั้นภาธรจิตสงบนิ่งจนเข้าฌานสำเร็จ รอบตัวมีแสงเรืองรองออกมา แต่ด้วยฤทธิ์เดชของสินีวาลีแทนที่เขาได้ขึ้นไปบนยามาภูมิ กลับส่งเขาไปที่ร้านขายของเก่าของรวิปรียาที่ปิดไฟมืด เขาแปลกใจทำไมตัวเองถึงมาอยู่ที่นี่แทนที่จะขึ้นไปยามาภูมิ
อีกมุมหนึ่งของร้าน รวิปรียาที่นอนทอดกายไปบนพื้นค่อยๆลืมตาขึ้นมองไปไกลๆเห็นภาธรเดินอยู่ เนื่องจากมีตู้กับข้าวของบังทำให้เขาไม่เห็นเธอ
“ภาธร...ฉันอยู่นี่ ฉันกลับมาช่วยคุณแล้ว” รวิปรียา ขยับจะลุกขึ้น แต่ลุกไม่ได้เพราะมีใครบางคนเหยียบขาไว้ คนถูกเหยียบหันขวับไปมอง เห็นผีเจ้าฟ้าทิพฉายยืนอยู่ บอกเสียงกร้าวว่าเธอห้ามอะไรตนไม่ได้ ตนต่างหากที่จะทำให้เธอกลับไปอยู่ภพภูมิของเธอสักที แล้วยันตัวจะลุกขึ้น ผีร้ายไวกว่าพุ่งกดร่างเอาไว้พร้อมกับปิดปากไม่ให้ส่งเสียงเกรงภาธรจะได้ยิน แล้วจับหัวรวิปรียากระแทกกับพื้น
“กำลังแค่นี้คิดจะขวางข้า อยากเจ็บตัวนักหรือไงรวิปรียา” ผีเจ้าฟ้าทิพฉายถลึงตาใส่
รวิปรียาไม่ยอมแพ้ง่ายๆผลักผีเจ้าฟ้าทิพฉายสุดกำลังจนกระเด็นไปชนเก้าอี้ เสียงโครมครามทำให้ภาธรหันขวับมามอง ผีเจ้าฟ้าทิพฉายไม่รู้ว่าเขาเห็นตัวเองแล้ว หันไปมองเก้าอี้แค่แวบเดียวเก้าอี้พุ่งใส่ศัตรูหัวใจที่ทำได้แค่ยกแขนขึ้นปกป้องตัวเอง แรงกระแทกของมันทำให้เธอทรุดลงไปอีกครั้ง ภาธรเห็นรวิปรียาบาดเจ็บรีบเข้าไปดูแล พร้อมกับสั่งให้ผีเจ้าฟ้าทิพฉายหยุดการกระทำของตัวเองได้แล้ว
ผีร้ายใช้สายตาเพ่งไปที่ภาธรทำให้จิตเขาถูกรบกวน ร่างของเขาเหมือนถูกกระชากหายไปในหมอกสีขาว ภาธรสะดุ้งตื่นจากนั่งสมาธิอยู่ในห้องนอนตัวเอง จำได้ว่าเมื่อครู่ถอดจิตไปเจอรวิปรียากับผีเจ้าฟ้าทิพฉายที่ร้านขายของเก่า พรวดพราดออกจากห้องลงไปที่มอเตอร์ไซค์ขับออกไปราวจะแข่งกับพายุ
ooooooo
รวิปรียาเจ็บแขนจากถูกเก้าอี้กระแทกถอยหนีผีเจ้าฟ้าทิพฉายที่ย่างสามขุมเข้าหาจนติดผนังหมดทางหนี ผีร้ายขู่จะฆ่าเธอทิ้งแล้วเข้าประชิดตัวจับแขนเธอบิดไปด้านหลัง เธอเชิญผีร้ายฆ่าตามสบายถ้าไม่กลัวตกนรกขุมลึกที่สุด ผีร้ายหากลัวไม่ การมีชีวิตอยู่โดยไม่มีคนรักต่างหากนั่นคือนรกที่ตนเจอมาแล้ว
“ท่านจะต้องเจอมันอีก ท่านจะไม่สมหวัง ภาธรจะไม่แต่งงานกับท่าน”
ผีร้ายโมโหบิดแขนรวิปรียาแรงขึ้นจนร้องลั่น เธอไม่ยอมถูกทำร้ายฝ่ายเดียวสะบัดหนีแล้วคว้าข้อมือผีร้ายไว้ แหวนทรงหยดน้ำสีแดงเพลิงในนิ้วเธอทาบลงบนแขนผีร้าย อิทธิฤทธิ์ของแหวนทำให้ร้อนเหมือนถูกเพลิงเผา ผีร้ายมองที่นิ้วของรวิปรียาตกใจเมื่อเห็นแหวนสีแดงวงนั้น