ตอนที่ 10
ผุดขึ้นมาในความคิดของเธอ
ตอนนั้น ภาธรหรือออกญาพิชิตแสนพลควบม้ากลับมาถึงเรือนไทยซึ่งเป็นที่ซ่อนตัวของทุกคนพร้อมด้วยทหารอีกสองนาย เจ้าฟ้าทิพฉายรีบมาที่ระเบียงหน้าเรือนถามว่ากรุงศรีฯเป็นอย่างไรบ้าง เขาได้แต่นิ่งเงียบ พระองค์ลงบันไดมาหาด้วยความร้อนใจ สั่งให้เขาบอกมาพระองค์จะได้กลับไปที่นั่น
“กลับไม่ได้พระเจ้าค่ะ กำแพงเมืองกรุงศรีฯ
แตกแล้ว พวกข้าศึกเอาไฟสุมจนกำแพงวังทรุดลง แล้วพวกมันก็บุกเข้ามาปล้น ฆ่า เผา...”
“สมเด็จพ่อ...เราจักกลับไป ไปช่วยสมเด็จพ่อ”
“กลับไม่ได้พระพุทธเจ้าค่ะ ตอนนี้ข้าศึกมีอยู่ทุกหัวระแหง พ้นหนองพรายไปนี่พวกมันตั้งด่านปล้น ริบทรัพย์ กวาดต้อนชาวบ้านหนีภัย...” ออกญาพูดไม่ทันจบ เจ้าฟ้าทิพฉายพุ่งไปที่ม้า เขาไม่กล้าแตะต้องตัวพระองค์จึงสั่งให้ปริกกับเหล่าสนมช่วยกันจับตัวไว้ ต้องกล่อมพระองค์อยู่นานถึงได้ยอมอยู่ที่นี่ต่อไป อยู่เพื่อรอกลับไปกู้ชาติบ้านเมืองและขับไล่พวกข้าศึกให้พ้นแผ่นดิน...
เพื่อความไม่ประมาทเจ้าฟ้าทิพฉายสั่งปริก สนมและเหล่านางในให้เร่งเก็บทรัพย์สมบัติลงหีบ อย่าให้ตกไปเป็นของศัตรูเด็ดขาด แล้วถอดกำไลทองยื่นให้ปริกไปเก็บเหลือแค่แหวนพญานาควงนั้นติดนิ้วไว้ พระองค์เห็นลูกแก้วมรกตอยู่ในหีบหยิบขึ้นมาดู ปริกรายงานว่านี่เป็นของกำนัลจากเมืองจีน ตนเอาติดมาด้วยเพราะเห็นว่าสวยดี เจ้าฟ้าทิพฉายสั่งให้เก็บไว้ให้ดี ทุกสิ่งของพระองค์จะต้องไม่ตกไปเป็นของผู้ใด
หลังจากเก็บสมบัติใส่หีบจนหมด เจ้าฟ้าทิพฉายคุมปริกกับเหล่านางสนมเอาหีบพวกนั้นไปฝังดินหลังเรือนไทย ซ่อนให้พ้นสายตาศัตรู...
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ระหว่างที่ออกญาพิชิตแสนพลลาดตระเวนมาถึงริมน้ำ เจอเจ้าฟ้าทิพฉายแอบมานั่งร้องไห้อยู่ในพงหญ้า ถามถึงปริกกับพวกสนมหายไปไหนทำไมปล่อยให้พระองค์มาที่นี่คนเดียว เจ้าฟ้าทิพฉายไม่อยากให้ตามก็เลยแอบมาเพียงลำพัง ความจริงเราไม่ควรมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่ ไม่รู้ป่านนี้สมเด็จพ่อจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง ออกญาพิชิตแสนพลปลอบว่าอย่าเป็นกังวลไป
“ทหารยังตามหาพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ออกจากวังก่อนข้าศึกจะบุกเข้าไปในกำแพงแก้ว”
“คุณพระคุณเจ้า พระเสื้อเมืองพระทรงเมืองคุ้มครองสมเด็จพ่อด้วย” เจ้าฟ้าทิพฉายน้ำตาไหลอาบแก้ม ออกญาพิชิตแสนพลสงสารพระองค์จับใจอยากดึงตัวมากอดแต่ไม่กล้า ได้แต่ขยับเข้าไปใกล้ๆ พระองค์เป็นกังวลไปหมดกลัวจะถูกทหารอังวะจับตัวไปเป็นเชลย อาจต้องไปตายในแผ่นดินศัตรู เขายืนยันจะไม่มีวันนั้นตราบใดที่เขายังอยู่ เจ้าฟ้าทิพฉายร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เขาเป็นห่วงความรู้สึกของพระองค์