ตอนที่ 10
วิษณุไม่ตอบหันไปจับมือผีหยด “หยดฟังฉันดีๆนะ ฉันไม่ได้รักผู้หญิง ต่อให้เธอจะยึดร่างของรินไว้ ฉันก็ไม่มีทางที่จะรักรินได้ อย่ายึดถือสัญญาอะไรที่เราเคยมีต่อกันไว้อีกเลยนะหยด ถ้าเธอต้องการที่จะแก้ไขอะไร ฉันอยากขอให้เธอทำเพื่อตัวเอง กราบขอโทษแม่เยื้อน แล้วคืนรินมาเถิดนะ เธอจะได้ไปเริ่มต้นชีวิตและความรักใหม่ในภพหน้า” วิษณุเห็นผีหยดเอาแต่เงียบ ถามว่าต้องทำอย่างไรเธอถึงจะยกโทษให้ ปาลพรวดพราดเข้ามา
“พี่ณุครับเดือนโทร.มาแจ้งว่าหมอให้โทร.ตามญาติไปลาครับ”
“หยด แม่เยื้อนต้องไปแล้ว เราไปลาแม่เยื้อน กันนะ” วิษณุมองผีหยดอย่างรอคำตอบ
ooooooo
พาไลนั่งทำสปาเห็น IG คู่ของกิฟท์ต้น อัปรูปคู่กัน พร้อมติดแฮชแท็ก
“ขอบคุณความอิจฉาของคุณ เพราะมันยิ่งช่วยทดสอบว่าความรักของเราสองคน จริงแท้ต่อกันแค่ไหน”
ผู้จัดการสาวชอบกินไก่วัดโมโหปามือถือทิ้ง ช่างนวดตกใจรีบเก็บคืนให้...
ต้นพากิฟท์มาที่ห้องพักของตัวเอง เธอนั่งมองกำไลโบราณวงนั้นก่อนจะโยนลงพื้น ยังมึนกับเรื่องที่ได้ฟังจากวิษณุไม่หาย นี่ถ้าเดือนรู้ว่าพี่ณุไม่ชอบผู้หญิงคงช็อกเข้าโรงพยาบาลตามแม่ไปอีกคนแน่ๆ
“เขาอาจจะรู้แล้วก็ได้ ก็พี่สาวเขาเคยยกเลิกงานแต่งกับพี่ณุ”
มีเสียงประตูเปิด พาไลเดินเข้ามาเจอกิฟท์ก็ชักสีหน้าใส่ กิฟท์หมั่นไส้เข้าไปกอดแขนต้นแกล้งให้พาไลอิจฉาเล่น เห็นอีกฝ่ายอกจะแตกด้วยความแค้นก็สะใจ ขอตัวกลับก่อน แล้วเดินเชิดไปที่ประตู เท้าสะดุดกับกำไลที่ตัวเองโยนทิ้ง ก้มเก็บใส่กระเป๋าไป ต้นรอจนประตูห้องปิด เดินไปหยิบเงินปึกหนึ่งโยนให้พาไล
“ส่วนแบ่งจ๊อบสุดท้าย แล้วผมขอว่าเราจบกันได้แล้ว”
พาไลตัดพ้อทำไมทำแบบนี้ ต้นโมโหยังมีหน้ามาถามอีกทำเขาขนาดนี้ เธอขอให้เขาเลิกเป็นแฟนหลอกๆกับกิฟท์แล้วมาเป็นแฟนเธอแทน เพราะเธอคือคนที่หวังดีกับเขามาตลอด ต้นไม่เชื่อว่าเธอหวังดี เธอแค่อยากได้ตัวเขาเท่านั้นแล้วไล่ตะเพิดไปให้พ้นอย่ากลับมาที่นี่อีกไม่อย่างนั้นจะแจ้งตำรวจจับ
“คอยดูแล้วกันว่าพี่จะทำชีวิตต้นให้มันตกต่ำลงได้แค่ไหน” พูดจบพาไลเดินกระแทกไหล่ต้นออกไป...