ตอนที่ 10
กิฟท์กับต้นมาถึงโรงพยาบาลก่อนเวลานัดเล็กน้อยทำให้กิฟท์มีเวลาแวะถ่ายรูปกับบรรดาแฟนคลับโดยควงแขนกับต้นแสดงตัวเป็นแฟนกันอย่างเปิดเผย เขาเห็นว่าใกล้เวลานัดจึงสะกิดให้เธอรีบขึ้นไปหาวิษณุ...
ทันทีที่เจอหน้ากิฟท์ วิษณุเอากำไลวงนั้นที่ได้มาจากห้องใต้ดินเรือนวนาเทพคืนให้ บอกว่ากำไลวงนี้เป็นของเธอมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ตั้งแต่เธอเป็นคุณกำไล เขาหรือคุณพระวนาเทพในชาตินั้นเป็นคนมอบให้ หวังให้เธอรับรักเขา กิฟท์เป็นสาวสมัยใหม่ไม่เชื่อเรื่องพรรค์นี้ แถมไม่พอใจที่เขาพยายามทำให้เธอเชื่อตาม
“คราวก่อนพี่ณุก็เอาหนังสือโบราณอะไรมาให้กิฟท์อ่าน รอบนี้ให้ฝ่ายพร็อพทำกำไลเพื่อจะกล่อมให้กิฟท์เชื่อให้ได้ว่ากิฟท์คือคุณกำไลกลับชาติมาเกิด ลงทุนนะคะใช้ของที่เข้าฉากก็ได้”
“กิฟท์พูดกับพี่ณุดีๆได้ไหม” ต้นเอ็ด กิฟท์โวยวายนี่มันบ้ามากไปแล้ว พี่ณุอยากจะเชื่อว่าตัวเองเป็นคุณพระวนาเทพก็เชิญเชื่อไป เธอไม่สนุกด้วย ชวนต้นกลับ โยนกำไลลงพื้นแล้วลุกขึ้น กำไลเจ้ากรรมกลิ้งไปหยุดหน้าประตูห้อง วิษณุเห็นเธอจะไปโพล่งขึ้นว่าผู้ชายในรูปคือเขาเอง
“ต้นบอกพี่เรื่องข้อตกลงนั่นแล้ว”
นางเอกสาวมองคู่จิ้นของตัวเองไม่ค่อยจะพอใจนัก ปาลผลักประตูเข้ามากับผีหยดในร่างริน ฝากวิษณุดูแลเธอด้วย ส่วนเขาขอตัวไปคุยกับหมอก่อนแล้วถอยหลังออกไป ผีหยดเห็นกำไลวงนั้นที่ตกพื้นเก็บขึ้นมาสีหน้าไม่พอใจ เอามันยัดใส่มือกิฟท์ “นังกำไล ใครใช้ให้เอ็งมาเฝ้าคุณพระ”
“เดี๋ยว...รินเรียกกิฟท์ว่าอะไรนะ” กิฟท์มองรินสีหน้าหวั่นๆ ผีหยดในร่างรินไม่สนใจอะไรเธออีก เอาดอกไม้ที่เพิ่งซื้อมอบให้วิษณุ ออกตัวว่าพยายามหาดอกรักแต่ไม่มีหวังว่าคุณพระคงไม่โกรธเธอ
“อย่าคิดมากเลยหยด”
ต้นงงทำไมพี่ณุเรียกรินว่าหยด วิษณุเล่าให้ฟังว่าหยดคือพี่สาวของหยาด นางบาปที่วางยาทุกคนไม่ใช่หยาดแต่เป็นหยด ตอนที่เขาให้กำไลวงนั้นกับกิฟท์หรือคุณกำไลในชาติที่แล้ว เขาเคยสัญญาว่าจะรักเธอคนเดียวแต่เขาผิดคำพูดไม่ต่างจากคำสัญญาที่ให้ไว้กับหยด หลังจากที่หยดยืมมือหยาดวางยาคุณกำไลกับลูกๆ เธอได้สาปแช่งเขาไว้ว่าขอให้พี่ไม่สามารถรักหญิงอื่นได้อีก ชาตินี้เขาถึงต้องเป็นแบบนี้
“นี่พี่ณุจะบอกกิฟท์ว่าพี่ณุไม่รักผู้หญิงแต่รักพี่ต้นเพราะกรรมในอดีตน่ะเหรอคะ”