ตอนที่ 15
สร้อยสนโทร.เล่าอาการของเฟื่องลดาให้ไทว์ฟัง ไทว์อยู่ที่ห้องโถงมองไปที่สนามเห็นทัฬห์เดินช้าๆอยู่ที่สนาม เขาบอกสร้อยสนว่า
“ไม่ต่างกันเลยครับคุณสน นี่พี่ทัฬห์ก็เดินจงกรมอยู่ที่สนามจะเป็นชั่วโมงแล้ว ข้าวเย็นก็ไม่ทาน ถามอะไรก็ไม่ตอบ สองคนนี่ปากแข็งใจแข็งเหมือนกันจริงๆ ทั้งๆที่รักกันแต่ก็ไม่ยอมรับ คงต้องปล่อยให้เขาทั้งคู่ได้เรียนรู้ใจตัวเอง คุณสนอย่าเครียดนะ เดี๋ยวลูกเราจะไม่สบายเอา แค่นี้ก่อนนะครับพี่ทัฬห์เข้ามาแล้ว”
ไทว์วางสายก็พอดีทัฬห์เดินเข้ามาทักว่าทำไมกลับบ้านเร็ว ไม่ไปหาสร้อยสนหรือ ไทว์บอกว่าเห็นเฟื่องลดากลับไปอยู่บ้านแล้วตนเลยไม่ต้องห่วงสร้อยสนนัก
“เขาคงมีความสุขมากสินะ อยากกลับจะแย่อยู่แล้ว” ทัฬห์พูดอย่างลืมตัว
“พี่ทัฬห์รู้ได้ยังไงว่าเขาอยากกลับ เขาอาจจะไม่อยากไปจากที่นี่ก็ได้ แต่พี่เป็นคนให้อิสระเขาเอง”
ทัฬห์บอกว่านายก็รู้ว่าเขามาอยู่กับตนเพราะเหตุจำเป็น เมื่อทุกอย่างจบตนจะเหนี่ยวรั้งเขาได้ยังไง เขาควรมีสิทธิ์เลือกทางเดินของตัวเองไม่ใช่หรือ ไทว์จะแย้ง แต่ทัฬห์ตัดบทว่าเลิกพูดเรื่องคนอื่นเถอะ ถามว่าตกลงเขาจะแต่งงานวันไหน ไทว์บอกว่าคุณสนยังเสียใจเรื่องแม่ เธอขอเวลาอีกหน่อย ตนก็เห็นด้วย
“งั้นเอาเป็นว่านายกับคุณสนพร้อมเมื่อไหร่บอกพี่ก็แล้วกัน พี่จะจัดการทุกอย่างให้”
ไทว์ขอบคุณ ทัฬห์เดินมาตบหลังไทว์เบาๆ แล้วเดินขึ้นชั้นบนเลย ไทว์ได้แต่มองตามอย่าเป็นห่วง
คืนนี้ลูกแก้วงอแงไม่ยอมนอนรบเร้าอยากคุยกับพี่ลดาจนดวงใจกับสาอ่อนใจ โชคดีที่ทัฬห์เข้ามา เขาจึงบอกให้ทั้งสองไปนอนเสียเดี๋ยวตนจัดการเอง
ลูกแก้วถามคุณพ่อว่าทำไมพี่ลดาไม่อยู่ที่บ้านเรา ไม่อยู่กับลูกแก้ว ทัฬห์อธิบายว่าเพราะน้าสร้อยเสียแล้วไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนพี่สน ลูกแก้วถามว่าถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่ลดาก็กลับมาอยู่กับเราอีกใช่ไหม
ทัฬห์ไม่อาจตอบได้จึงเปลี่ยนเรื่องว่าปิดเทอมแล้วเราไปเที่ยวทะเลกันดีไหม ลูกแก้วจะได้เล่นน้ำทะเลและไล่จับปูลมทั้งวันเลย ลูกแก้วตื่นเต้นบอกว่าพรุ่งนี้ไปเลย ทัฬห์บอกงั้นก็ต้องรีบนอนจะได้ตื่นไปกันแต่เช้า ลูกแก้วรีบนอนอย่างว่าง่าย ทัฬห์ดูแลและเฝ้าอยู่จนลูกแก้วหลับจึงเดินกลับห้องนอนตัวเอง...
เห็นห้องนอนที่เงียบและเตียงนอนที่ว่างเปล่า ทัฬห์สะเทือนใจคิดถึงวันแรกที่เฟื่องลดามาอยู่ที่นี่เธอใส่เสื้อผ้าป้องกันตัวเองจนตัวกลม...คิดถึงวันที่ตนจูบจนเธอเป็นลม...และคิดถึงตอนที่ตนเข้าเฝือกแขน เธอก็ดูแลและใส่เสื้อนอนติดกระดุมเสื้อให้ทุกวัน...
ความใกล้ชิดทำให้ความรู้สึกดีๆต่อกันงอกงามขึ้นในใจจนไม่อาจปกปิดได้ แต่ต่างก็ยับยั้งชั่งใจ มีแต่ความห่วงใยและปฏิบัติต่อกันอย่างอ่อนโยน
ทัฬห์คิดแล้วเศร้า พึมพำถามตัวเอง “ทำไมเราถึงจำทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กคนนั้นได้แม่นยำขนาดนี้ แต่เธอคงลืมทุกอย่างไปหมดแล้วใช่ไหม...เฟื่องลดา”
คืนเดียวกัน เฟื่องลดาออกมานั่งที่โต๊ะสนามหน้าบ้าน คิดถึงครั้งแรกที่ตนพรวดพราดเดินมาชนกับทัฬห์จนตัวเองล้มแล้วทัฬห์รีบเข้าประคองแต่ตนรีบลุกขึ้นมาก่อน คิดถึงตอนนั้นแล้วก็เผลอยิ้มออกมา... คิดถึงวันที่ตัวเองเกือบถูกรถชนและทัฬห์ดึงหลบได้ทันจนเธอตะลึงเมื่อรู้ตัวว่าอยู่ในอ้อมกอดของทัฬห์