ตอนที่ 11
ทางด้านเมย์เดินหาปิ่นปักจนเจอ รายงานว่าตนแจ้งกับทางโรงพยาบาลแล้วว่าเธอจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องค่ารักษาพยาบาลของแดน ปิ่นปักขอบใจเพื่อนรักมากที่เป็นธุระให้แล้วชวนกันกลับ เปรี้ยวปรี่มาขวางไว้
“คุณอย่าคิดเอาเงินมาปิดปากพวกเรา”
“เปรี้ยว ฉันไม่เคยคิดอย่างนั้น”
“แล้วสิ่งที่คุณทำเรียกว่าอะไร พ่อคุณฆ่าน้าดวง ทำให้แดนเจ็บหนัก คุณถึงเอาเงินมาปิดปาก อย่าคิดว่าพวกเราจะยอมให้คดีมันจบง่ายๆ พ่อฉันจะแจ้งตำรวจเอาเรื่องพ่อของคุณให้ถึงที่สุด”
“ถ้าเธอจะคิดว่าพ่อฉันเป็นคนบงการ ฉันก็ขอให้ตำรวจสอบสวนตามขั้นตอน แต่สิ่งที่ฉันทำเพราะฉันรักและหวังดีกับนพ ฉันรักทุกคนในครอบครัวของเขา เงินทุกบาทที่ฉันช่วยเหลือเป็นเงินส่วนตัวของฉัน เปรี้ยว ฉันขอให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เธอรับปากฉันได้ไหม” ปิ่นปักมองเปรี้ยวอย่างรอ
คำตอบ เธอกลับนิ่งเฉยไม่ยอมรับปากได้แต่บอกให้ปิ่นปักกลับไปก่อนที่นพจะมาเห็น เมย์เห็นด้วยกับเปรี้ยวรีบคว้ามือเพื่อนรักออกไป
ooooooo
เช้าวันถัดมา นพไปนั่งสวดมนต์อยู่ในโบสถ์หวังจะเอาทางพระเข้าข่มความโกรธและเกลียดชังเปลว แต่ใจเขาไม่สงบพอทำให้สวดมนต์ไม่สำเร็จ กิ๊บกับนิคกี้เห็นอาการของเพื่อนก็เป็นห่วง หลวงตาเดินเข้ามากราบพระประธาน แล้วแสร้งพูดขึ้นลอยๆ
“ความทุกข์มันก็เหมือนบิดมอเตอร์ไซค์”
กิ๊บไม่เห็นจะเกี่ยวกันตรงไหน หลวงตาหันมาตอบเขาแต่สายตาจับจ้องไปที่นพ “เอ็งคิดให้ดี ตอนเราสตาร์ตเครื่องบิดแรงๆแต่ไม่เข้าเกียร์ เสียงก็ดังหนวกหู พอตบเกียร์มันพุ่งทะยานเบรกเอาไม่อยู่ ก็เหมือนใจเรา อัดอั้นไว้ พอปล่อยออกมามันเอาไม่อยู่นา ทุกสิ่งทุกอย่างต้องทำให้พอดี สุขให้พอดี ทุกข์ให้พอดี สุดท้ายแล้วอย่าทำให้สุดโต่ง เลือกเอาแต่พอดีมันก็คือเลือกทางสายกลาง เข้าใจไหม”
“เข้าใจครับ...สาธุ” กิ๊บกับนิคกี้รับคำอย่างพร้อมเพรียงกัน หลวงตาหันไปมองนพถามว่าเข้าใจใช่ไหม เขาพยักหน้ารับคำ นิคกี้ถึงบางอ้อที่แท้หลวงตาต้องการสอนนพนี่เอง หลวงตาส่งผ้าขนหนูผืนเล็กๆให้กิ๊บกับนิคกี้สำหรับเอาไปเช็ดองค์พระ สองคนนั่นยื่นผ้าให้นพอีกต่อหนึ่งบอกว่าหลวงตายกให้
“พวกเอ็งนั่นแหละเอาไปเช็ดขี้นกหลังองค์พระ” สั่งเสร็จหลวงตาลุกขึ้นจะไป พร้อมกับพูดขึ้นลอยๆอีกครั้ง “ไอ้น้ำตาน่ะไม่ต้องเช็ด ปล่อยให้มันเป็นคราบเตือนใจ แล้วไม่ต้องมานั่งร้องไห้เสียใจอีก”
นพเข้าใจคำสั่งสอนของหลวงตา พนมมือไหว้ขอบพระคุณสำหรับคำสั่งสอนดีๆจากท่าน...