ตอนที่ 11
เอ๋ช่วยพูดอีกแรงหนึ่งเอาไว้ไลน์เคลียร์กันก็ได้ รบกวนเขาขยับมอเตอร์ไซค์ให้หน่อยเดี๋ยวตกเครื่องบิน เขาไม่สนใจฟังเดินตรงไปที่รถ เมย์กับเอ๋รีบเดินตาม ครั้นมาถึงรถนพเปิดประตูด้านคนขับเข้าไปนั่ง ปิ่นปักไม่อยากอยู่ตามลำพังกับเขา จัดแจงจะลง เขากดเซ็นทรัลล็อกไม่ให้ลง เอ๋กับเมย์ช่วยกันเคาะกระจกรถ
“คุณนพมีอะไรค่อยๆพูดคุยกันค่ะ”
“เปิดประตูลงมาคุยกันค่ะ” เอ๋ทั้งทุบกระจกทั้งตะโกน
“นายเปิดประตูให้ฉัน” ปิ่นปักขอร้อง นพไม่สนใจใส่เกียร์ถอยหลังขับออกไปอย่างรวดเร็ว เมย์กับเอ๋พยายามวิ่งตามแต่แรงคนหรือจะสู้แรงเครื่องกล เอ๋พยายามมองโลกในแง่ดี
“คุณนพพายัยปิ่นไปแล้ว หรือเขาขับไปทางลัด”
“แกเลิกคิดบวกได้แล้ว คุณนพคงอยากเคลียร์กับยัยปิ่น”
“เอาไงล่ะแก”
“เอาโทรศัพท์แกมา ฉันจะส่งไลน์ให้ปิ่นแชร์โลเกชัน”
เอ๋ส่ายหน้า โทรศัพท์ของตนอยู่ในรถ ให้เมย์ใช้ของตัวเองก็แล้วกัน เธอเองไม่ได้เอาโทรศัพท์ลงจากรถ
“หมดกัน คุณนพอย่าทำอะไรปิ่นนะ โกรธเกลียดให้มาลงที่เอ๋”
นพขับรถฉวัดเฉวียนแซงซ้ายปาดขวาอย่างน่าหวาดเสียว ปิ่นปักใจคอไม่ดีสั่งให้เขาจอดรถเธอจะลง เขาขับต่อไปไม่สนใจ
“นายเกลียดฉันฉันจะไปอยู่เมืองนอก ไม่ต้องเจอหน้ากันอีก...ก็ปล่อยให้ฉันไป” ปิ่นปักเห็นเขาเงียบก็โวยวายอีกว่า “นายคิดจะทำอะไรของนาย”
เงียบไม่มีคำตอบจากนพซึ่งเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นอีกจนปิ่นปักเริ่มกลัว...
ผ่านไปพักใหญ่ นพขับรถเข้ามาจอดในโกดังร้างริมแม่น้ำ พอปลดเซ็นทรัลล็อกเท่านั้น ปิ่นปักเปิดประตูรถวิ่งหนี เขาวิ่งไล่มาติดๆ เธอวิ่งหนีไปพลางพยายามโทร.หาเมย์กับเอ๋ให้ตามคนมาช่วย แต่ไม่ทันนพตามมารวบตัวเสียก่อน เธอขอร้องให้ปล่อย เขายิ่งกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นจนใบหน้าเกือบชนกัน
“ฉันเป็นแค่คนแปลกหน้าของนาย นายไม่อยากเจอฉัน แล้วจับฉันมาทำไม”
“ใช่ ฉันไม่อยากเจอหน้าเธอ แต่ฉันต้องการตัวพ่อเธอ” พูดจบนพแย่งโทรศัพท์ไปจากมือปิ่นปัก แล้วโทร.หาเปลว
ooooooo
เสียงมือถือของเปลวดังขึ้น เปลวเห็นเบอร์โชว์หน้าจอเป็นของปิ่นปักก็กดรับสาย
“ลูกปิ่น ลูกถึงไหนแล้ว พ่อมีเรื่องจะคุยกับลูก...ไอ้นพ” เปลวร้องเอะอะเมื่อคนที่คุยด้วยไม่ใช่ลูก ธนูได้ยินเขาเรียกชื่อนพก็นิ่วหน้าแปลกใจ นพซึ่งอยู่ปลายสายได้ยินน้ำเสียงตื่นตระหนกของเปลวถึงกับยิ้มสะใจ