ตอนที่ 10
ดวินเกือบหลุดความในใจกับอลิซ ศักดิ์ชายโผล่มาขวางเสียก่อนและลากตัวนาวิกโยธินหนุ่มไปบอกเรื่องสำคัญว่าเสาวณีรู้สถานะแท้จริงของอลิซแล้ว
“เป็นอย่างที่เรากังวลกัน เขาไม่พอใจ...และเป็นห่วงคุณมาก”
ศักดิ์ชายหมายความมากกว่าคำว่าห่วงใยธรรมดาตามประสาแม่ลูกแต่ดวินยังไม่เข้าใจ
“ที่จริงแม่ก็น่าจะรู้ว่าผมดูแลตัวเองได้ งานโหดกว่านี้ก็ผ่านมาแล้ว”
“เขาไม่ได้ห่วงว่าคุณเป็นอันตรายแต่เขาห่วงว่าคุณจะหลงรักเจ้าหญิงเข้าจริงๆ”
คำอธิบายตรงๆของศักดิ์ชายทำให้ดวินตัวชา ศักดิ์ชายเข้าใจดีแต่ก็อยากเตือนสติ
“ผมบอกเขาไปแล้วว่าไม่ต้องห่วง คุณรู้ดีว่าหน้าที่คืออะไรและสิ่งที่ทำมันคืองาน คุณเป็นคนแยกแยะได้ คุณรู้ดีว่าภารกิจนี้มีวันสิ้นสุดและเมื่อวันนั้นมาถึงความเป็นสามีภรรยาก็จบ คุณก็กลับมาเป็นนายทหารเหมือนเดิมและนารีก็กลับไปเป็นเจ้าหญิงอลิซ...คุณไม่ลืมใช่ไหม”
“ครับ...ผมไม่เคยลืมฐานะที่แท้จริงของตัวเอง”
“ดีแล้ว...อีกแค่วันเดียว คืนนี้พรุ่งนี้พอเจ้าหญิงเสด็จกลับ แม่คุณก็จะรู้เองว่ามันไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”
แม้ศักดิ์ชายจะปลอบให้คลายใจแต่เสาวณียังไม่วางใจ ฉวยจังหวะไม่มีคนเฝ้าขอพบอลิซตามลำพัง กรรณกับหินซึ่งรับหน้าที่อารักขาไม่ยอมให้พบแต่อลิซก็รู้จนได้และเอ่ยปากอนุญาตด้วยตัวเอง
เสาวณีรอจนได้อยู่ตามลำพังกับอลิซ ย่อเข่าถวายบังคม อลิซตกใจรีบห้าม
“ท่านผู้หญิง...ทำแบบนี้ทำไมคะ”
“หม่อมฉันทราบฐานะที่แท้จริงของพระองค์แล้ว... พระองค์ไปช่วยหม่อมฉันทำไม”
“เพราะเราต้องชดใช้ เราต้องการแก้ไขความผิดพลาดที่ครอบครัวเราเคยทำ ทำให้ท่านต้องสูญเสีย คนที่ท่านรัก”
คำตอบของอลิซทำให้เสาวณีลอบถอนใจยาว “หม่อมฉันก็คิดไว้แล้วว่าต้องเป็นเหตุผลนี้...ดี...ในเมื่อพระองค์ต้องการชดใช้ ต้องการแก้ไข หม่อมฉันยินดีรับไว้ ถือว่าเอาหนึ่งชีวิตมาแลกกับอีกชีวิต เราสองครอบครัวไม่มีสิ่งใดติดค้างกันอีกต่อไปและเมื่อไม่มีสิ่งใดติดค้างกันแล้ว หม่อมฉันขอชีวิตลูกชายคืน”
อลิซอึ้งมาก ใจหายวาบเมื่อคิดว่าจะไม่ได้เจอ ดวินอีก เสาวณีเห็นท่าทางนั้นแต่ไม่ยอมเปลี่ยนใจ
“ที่ผ่านมาดวินดูแลพระองค์มาตลอด เสี่ยงตายนับครั้งไม่ถ้วน หม่อมฉันคิดว่ามันเพียงพอแล้วเพคะ นับจากนี้หากพระองค์ทรงมีพระเมตตากับหม่อมฉันและครอบครัว ได้โปรดคืนลูกชายให้หม่อมฉัน อย่าให้ดวินต้องทำงานนี้อีกเลยเพคะ...หม่อมฉันขอร้อง”