ลิขิตรัก
ตอนที่ 10
วิลประกบปากจูบเคธอีกครั้งอย่างดูดดื่ม หวังให้เสน่ห์รสรักของเขามอมเมาเธอเหมือนเคย เคธ
จูบตอบด้วยความเต็มใจเพราะโหยหาความรัก โดยไม่รู้เลยว่าเภตราซึ่งลาดตระเวนวังเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง!
เภตราตกใจกับภาพกอดจูบดูดดื่มระหว่างวิลกับเคธและไม่รอช้าจะรายงานอลิซ แต่ไม่ทันเริ่ม อลิซก็เปิดฉากหารือเรื่องการตายของอังเดรกับโมนาเสียก่อนว่าอาจเป็นฝีมือของเฮเดส
“ตอนนี้เหลือแค่เรากับพี่เคธที่อาจตกเป็นเป้าสายตาของคนร้าย ถ้าพี่เคธต้องมารับตำแหน่งแทนเราพี่เคธอาจจะต้องได้รับอันตรายแบบเรากับอลันก็ได้ ถ้าเฮเดสเป็นคนทำ เราอยากรู้จริงๆว่ามันทำแบบนี้ทำไม มันต้องการอะไรกันแน่”
องครักษ์นิ่งคิดก่อนลองหยั่งเชิง “ถ้าจริงๆแล้วมันไม่ได้มาจากความต้องการของเฮเดส แต่เป็นความต้องการของใครสักคนที่จะได้ผลประโยชน์จากเหตุการณ์ทั้งหมดล่ะเพคะ”
“ใคร...ใครคือคนที่ได้ผลประโยชน์ถ้าเขากำจัดเรากับอลันไปได้”
อลิซนิ่วหน้าพยายามคิดหาบุคคลต้องสงสัย เภตราอึกอักอยากบอกเรื่องวิลกับเคธแต่พูดไม่ออก ได้แต่แกล้งพูดอ้อมๆหวังว่าเจ้านายสาวจะเดาได้
“ใครสักคนที่คิดว่าเจ้าหญิงเคธน่าจะได้ขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาท เพราะถ้าเจ้าหญิงเคธได้ขึ้นครองราชย์จะควบคุมได้ง่ายที่สุดเลยร่วมมือกับเฮเดสเพื่อกำจัดคนอื่น”
“คนที่จะคิดอะไรแบบนั้นได้มันต้องเป็นคนที่เลือดเย็นและโหดร้ายมากๆ ถ้าเป็นจริงเราเป็นห่วงพี่เคธ... เภตราส่งคนไปดูแลพี่เคธด้วย ตอนนี้พี่เคธไม่มีใคร ส่วนเรื่องอลันถ้าได้ข่าวเมื่อไหร่รีบบอกเราทันที ส่วนเรื่องใครสักคน...รีบหาหลักฐานมาด่วนถ้าเรารู้ตัวว่ามันเป็นใคร...เราไม่เอามันไว้แน่!”
เภตรารับปากหนักแน่น หมายมั่นจะหาหลักฐานเรื่องวิลกับเคธมาให้ได้
ooooooo
อลันจมปลักกับความทุกข์ใจที่ต้องสูญเสียพ่อแม่ เก็บตัวอยู่ในบ้านเก่าของโมนาเพื่อซึมซับความทรงจำเก่าๆเมื่อครั้งพ่อแม่ยังมีชีวิต แพนสืบจนพบหลักฐานในภาพวงจรปิดว่าเฮเดสคือตัวการวางระเบิดรถประทับของอลันจึงไม่รอช้าอาสาไปตามหาอลันที่ฮรีสอซในฐานะพระสหายไม่ใช่บอดี้การ์ด
