ตอนที่ 12
ไม่นานนัก ทินภัทรกลับถึงบ้านพักเป็นบังกะโลหลังเล็กๆไม่ต่างจากที่พักของลินิน เอาไฟฉายวางไว้แล้วนั่งหลับตาทำสมาธิต่อ ลินินในสภาพมอมแมมแถมเรี่ยวแรงเริ่มถดถอยเพราะยังไม่ฟื้นไข้ดีค่อยๆชะเง้อมอง เห็นเขานั่งหลับตาอยู่ ส่วนไฟฉายวางไว้ใกล้กับหน้าต่าง รีบไปปีนหน้าต่างเพื่อหยิบไฟฉายส่องกลับที่พักของตัวเอง พยายามเอื้อมมือไปหยิบแต่ไม่ถึง ต้องยืดตัวเข้าไปอีกหัวเกือบทิ่มเข้าไปในห้องรีบดันตัวออก
มีเสียงตุบดังมาจากนอกหน้าต่าง ทินภัทรลืมตามองไปทางต้นเสียง ก่อนลุกไปดูไม่พบสิ่งผิดปกติ คว้าไฟฉายมาส่องดู ลินินแอบตัวลีบเพื่อให้พ้นจากแสงไฟฉาย เขายังสงสัยไม่หายพยายามยื่นตัวส่องไฟฉายไปยังจุดอับ แต่ไฟฉายหลุดมือตกพื้น ตัวไปทางถ่ายไฟฉายไปอีกทาง รีบเดินไปที่ประตูบ้านพักเพื่อออกมาเก็บ ลินินกลัวเขามาเจอคว้าไฟฉายโดยไม่ได้ดูว่าไม่มีถ่านวิ่งพรวดออกไป พอพ้นระยะถึงได้รู้ว่าถ่านไฟฉายหายไป
“อะไรกันเนี่ย แล้วจะเห็นเครื่องหมายที่ทำไว้กลับไปทางเดินได้ยังไง” ลินินบ่นอุบ ส่วนทินภัทรเดินมาถึงจุดที่ไฟฉายตกเจอถ่านแต่ตัวไฟฉายหายไปก็แปลกใจ พยายามกวาดตามองฝ่าความมืดแต่ไม่เจออะไร...
เนื่องจากไม่มีไฟส่องสว่างทำให้ลินินเดินหลงออกนอกเส้นทางเข้าไปแถวชายป่า ยิ่งเดินก็ยิ่งหลง เธอเริ่มใจเสีย พลันมีเสียงร้องของช้างป่าดังขึ้น เธอตกใจวิ่งหนี แต่เสียงมันกลับดังใกล้เข้ามา ลินินขวัญผวา กรีดร้องลั่น วิ่งหนีไปเจอไผ่กอใหญ่รีบเข้าไปซ่อนตัว
เสียงร้องของเธอดังไปถึงที่พักของทินภัทรซึ่งเป็นหลังสุดท้ายใกล้ชายป่าที่สุด เขารีบวิ่งออกไปทันที...
ในเวลาต่อมา ทินภัทรกับเจ้าหน้าที่ของสถานปฏิบัติธรรมหลายคนกระจายกำลังกันส่องไฟตามหาเจ้าของเสียงกรีดร้องซึ่งตอนนี้เงียบไปแล้ว ทำให้ไม่รู้จะไปตามหาเธอที่ไหน ทินภัทรถามเจ้าหน้าที่ต้อนรับว่าผู้หญิงที่มาปฏิบัติธรรมใช้ชื่อว่าอะไร
ทั้งคู่รีบกลับไปที่สำนักงานค้นดูประวัติของสาวคนนั้น ปรากฏว่าชื่อที่ในการใช้ลงทะเบียนคือชื่อของปรางทิพย์ เนื่องจากลินินไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองมาที่นี่ก็เลยให้ปรางทิพย์ใช้บัตรประชาชนของเธอลงทะเบียนแทน ทินภัทรเห็นชื่อเธอก็แปลกใจมาก บอกเจ้าหน้าที่ว่าเธอเป็นน้องสาวของเขาเอง
“พวกเธอมากันสามคนครับ คุณปรางทิพย์อยู่ปฏิบัติธรรมคนเดียว อีกสองคนกลับไปแล้วครับ เหมือนจะมาส่งมาเป็นเพื่อนกัน”
“รีบตามหาเธอเร็วๆเถอะ” ทินภัทรร้อนใจมากผลุนผลันออกไปโดยมีเจ้าหน้าที่วิ่งตาม...
ทางด้านเจ้าแสงแก้วแจ้งกับเจ้าแม่ว่าจะไปปฏิบัติธรรมวันพรุ่งนี้ พอดีเพื่อนอยู่ที่นั่นแล้วท่านไม่ต้องเป็นห่วง ครั้นท่านซักว่าเพื่อนคนไหน เธออึกอักไม่ยอมบอก เห็นแค่สีหน้าลูกเจ้าแม่ก็พอเดาออก เพื่อนที่ลูกว่าต้องเป็นทินภัทร
ooooooo
ทีมค้นหาตามหาลินินตั้งแต่เมื่อคืนยันเช้า เจอเธอนั่งซุกหน้าขดตัวอยู่ในกอไผ่ ต่างอึ้งว่าเข้าไปได้อย่างไร ทินภัทรเป็นห่วงมากบอกให้เจาะกอไผ่เป็นช่องเอาตัวออกมา เจ้าหน้าที่แนะให้ปลุกเธอก่อนจะได้ไม่ตกใจ
ทินภัทรร้องเรียก “ปราง” เพราะคิดว่าเป็นปรางทิพย์ ลินินค่อยขยับตัวเงยหน้าขึ้นมา พอเห็นเขาก็ดีใจมาก ทินภัทรเองก็ดีใจแวบหนึ่งก่อนทำหน้าตึงใส่
“คนละคนกับที่ลงทะเบียนนะครับ” เจ้าหน้าที่ต้อนรับรายงาน
“รีบตัดกอไผ่เร็วๆ เดี๋ยวจะตายซะก่อน” พูดจบทินภัทรเดินกลับไปเลย ลินินมองตามเสียใจน้ำตาคลอ