ตอนที่ 15
ฝ่ายมิ่ง ม่วง ร่วมกับพระยากำแหง มายืนลุ้นอยู่หน้าห้องหอ คอยจังหวะที่จะเคาะประตูทำให้ขันทองกับแมงเม่าที่อยู่ในห้องตกใจจะได้กอดกัน ครั้งแรกทำสำเร็จแล้วรอจังหวะที่จะทำอีก แต่พระยากำแหงถูกเป้ามาตามกลับบ้าน อินก็มาตามม่วงบอกว่าลูกร้องจะให้ตนดูคนเดียวหรือ ทั้งสองจึงกลับไป
ภายในห้องหอ...เมื่อได้กอดกันแล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปตามธรรมชาติโดยไม่ต้องมีใครสอน แมงเม่ายังเขินชวนขันทองมาแก้กลบทกันดีหรือไม่ ขันทองถามว่าแก้กลบทตอนนี้หรือ ยิ้มขำๆแล้วเอ่ย “แม้นกุศล เราสอง เคยร่วมสร้าง ขอร่วมห้อง อย่าได้ ห่างเสน่หา เสี่ยงผลที่ ได้เพิ่ม บำเพ็ญมา ขอร่วมชีวา ร่วมวางชีวาวาย”
แมงเม่าบอกว่านี่ไม่ใช่กลบทแต่เป็นเพลงยาวของเจ้าฟ้ากุ้งต่างหาก
“ความรักของพี่ไม่ต้องถอดกลบทดอกคนดี” ขันทองเชยคางแมงเม่าขึ้นมองด้วยความรักใคร่บอกว่าแค่เจ้ารู้สึกก็พอ ทำตากรุ้มกริ่มพลันก็บอกว่า “พี่จะปล้ำเจ้าแล้ว เตรียมตัวเตรียมใจให้ดีล่ะ”
ขันทองอุ้มแมงเม่าที่ทุบตนแก้เขินไปวางที่เตียง ก้มหอมแก้มอย่างแผ่วเบา...
ooooooo
6 เดือนผ่านไป...ขณะแมงเม่ากำลังตรวจกระดาษที่คนงานกับทาสทำ ขันทองก็นำนักมวยคนหนึ่งเข้ามาบอกว่าเขามีข่าวของคนที่แมงเม่าอยากรู้มาบอก แล้วพากันขึ้นเรือนไป
เขาคนนั้นคือนักมวยที่ถูกจับตัวเป็นเชลยคราวกรุงแตก ต่อมามีการแข่งชกมวยต่อหน้าพระที่นั่งของพระเจ้ามังระ ตนอาสาขึ้นชกและชนะนักมวยหลายคน พระเจ้ามังระจึงพระราชทานรางวัลให้ขอกระไรก็ได้หนึ่งประการ ตนจึงขอกลับสู่แผ่นดินเกิด
แมงเม่าถามถึงกรมขุนวิมลว่าเป็นอย่างไรบ้าง นักมวยผู้นั้นเล่าอย่างรู้ดีว่าถ้านับแบบชาวบ้านก็ไม่ถือว่าลำบาก แต่ถ้าคิดว่าพระองค์ทรงเป็นเชื้อพระวงศ์ก็ถือว่าลำบากเอาการ เล่าสภาพให้ฟังว่า
พระเจ้ามังระพระราชทานที่ดินให้เชลยที่ถูกจับไปสร้างบ้านเรือน เรียกกันว่า “หมู่บ้านโยเดีย” อยู่กันไม่ลำบากกระไร เว้นแต่ต้องถูกเกณฑ์ไปทำงานเท่านั้น
ส่วนกรมขุนวิมลแม้ไม่มีคนรับใช้ อาหารการกินก็ไม่ดีนัก นอกจากทำงานส่วนตัวแล้วท่านยังเจียดเวลามาคัดลอกหนังสือและสอนหนังสือพวกชาวบ้านด้วย
นักมวยเล่าต่อว่า
“หนังสือที่พระองค์ทรงคัดลอกเก็บไว้ในกระท่อมหลังหนึ่ง เรียกว่า ‘หอแมงเม่า’ ขอรับ”
เมื่อนักมวยกลับไปขันทองบอกแมงเม่าว่า “เสด็จพระองค์หญิงคงทรงคิดถึงแม่แมงเม่าถึงได้ตั้งชื่อหอหนังสือเช่นนั้น นับเป็นพระกรุณาอย่างหาที่สุดมิได้จริงๆ”
“สิ่งเดียวที่ฉันเสียใจมาตลอดก็คือไม่ได้ถวายรับใช้เสด็จพระองค์หญิงให้ถึงที่สุด สมกับพระเมตตาที่ทรงมีให้” แมงเม่าร้องไห้บอกว่า “อังวะนั้นไกลนักแลเป็นคู่ศึกคู่สงครามกัน หม่อมฉันคงไม่อาจถวายรับใช้ได้อีกแล้ว แต่หากชาติหน้ามีจริง หม่อมฉันจะขอเป็นข้ารับใช้เสด็จทุกชาติไปเพคะ”
แมงเม่าก้มกราบที่พื้นทั้งน้ำตาแสดงความรักและภักดีที่มีต่อกรมขุนวิมลอย่างหมดหัวใจ
ooooooo