ตอนที่ 15
หนึ่งปีผ่านไป...
ขันทองกับแมงเม่าขี่ม้ามาตามริมแม่น้ำในยามเย็น พูดคุยกันอย่างมีความสุข
“ถ้าเป็นอย่างวันนี้ได้ตลอดไปก็ดีนะเจ้าคะ คุณพระทำราชการ ฉันทำโรงกระดาษ ตกเย็นก็มาเจอกัน พูดคุยกัน จะมีกระไรสุขเท่านี้”
“เราเกิดมาในกลียุค มีทางเลือกไม่มากนักดอกเจ้า ดูเอาเถิดพอตั้งกรุงได้ไม่นานก็ต้องรบพุ่งกับชุมนุมต่างๆเพื่อรวมแผ่นดินกว่าสองปี พอรวมได้แล้วนึกว่าจะเป็นสุขก็ต้องรบกับแว่นแคว้นอื่นอีก หากอังวะสงบศึกกับจีนเมื่อใด ก็คงไม่แคล้วเป็นสงครามใหญ่ขึ้นมาอีก”
“คุณพระจะออกรบอีกหรือเจ้าคะ” แมงเม่าหน้าเศร้า
“มันเป็นหน้าที่ กว่าจะรวบรวมแผ่นดินได้ เสียเลือดเนื้อไปมากนัก ถ้าเราไม่ปกป้องไว้ก็ต้องเจ็บปวดแบบคราเสียอโยธยาอีก”
“เจ้าค่ะ ฉันจะไม่ยอมต้องเจ็บปวดแบบนั้นอีกแล้ว ถึงฉันจะไปรบด้วยไม่ได้ ฉันก็ขอส่งใจไปร่วมรบกับคุณพระด้วยนะเจ้าคะ”
“เจ้ารอพี่อยู่ทางนี้เถิดนะคนดี พี่สัญญาว่าจะนำหัวใจของเจ้ากลับมาพร้อมกับหัวใจของพี่ ไม่มีวันให้เจ้าต้องรอเก้อเป็นอันขาด”
แมงเม่ายิ้มสบายใจ เอนซบอกขันทองอย่างคลายกังวล
ภาพเขียนพู่กันจีนรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงม้า ชูดาบขึ้นฟ้าอย่างสง่างาม ฉายขึ้นพร้อมคำบรรยายว่า...
“หลังจากที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงปราบปรามชุมนุมต่างๆ รวบรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นได้สำเร็จ ก็ต้องทรงทำสงครามต่อเนื่องเพื่อปกป้องอาณาจักรและแผ่ขยายอาณาเขตออกไปอีก จนอาจกล่าวได้ว่า เป็นรัชสมัยที่เกือบไม่ว่างเว้นการศึกเลย แต่ถึงอย่างนั้นพระองค์ก็ยังทรงสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจไว้อย่างมากมาย ทั้งการขยายพื้นที่ปลูกข้าว ส่งเสริมการค้าขาย การตัดถนนและขุดคลองจำนวนมาก ซึ่งนับเป็นประโยชน์ต่อเนื่องกับบ้านเมืองมาอีกยาวนาน”
ooooooo
-อวสาน-