ตอนที่ 15
เมื่อแมงเม่ากับเป้าพบกัน คุยกันด้วยความดีใจ แมงเม่าตื่นเต้นมากเมื่อรู้ว่าเป้าแต่งงานกับพระยา-กำแหงแล้ว ถามว่าแล้วไม่คิดถึงขุนจิตใจภักดิ์หรือแน่นบ้างหรือ เป้าบอกว่าตนคิดถึงเสมอ แต่ไม่ใช่ความรู้สึกเดียวกับความรู้สึกกับท่านเจ้าคุณ แมงเม่าถามว่าอย่างไรรึ
“ท่านขุนจิตมีรักแท้ต่อฉัน ฉันเองถ้ารู้ว่าท่านขุนเป็นชายแต่แรกก็คงรักท่านตอบได้ไม่ยาก แต่มารู้เมื่อสายเกินไป ดังนั้นจะบอกว่า ‘รัก’ ก็ไม่เต็มปากนัก แต่กับท่านเจ้าคุณ เจ็ดเดือนที่ได้อยู่ด้วยกัน ฉันพูดได้เต็มปากว่าฉันรักท่านเจ้าคุณมากจริงๆ”
แมงเม่าแสดงความยินดีกับเพื่อนรัก เป้าบอกว่าให้เล่าเรื่องของแมงเม่ากับออกพระศรีขันทินให้ฟังบ้างสิ แมงเม่าจึงบอกว่า “ออกพระศรีขันทินที่ไหนกัน พระศรีสัจจาต่างหาก”
“ใครจะไปจดไปจำได้แม่นยำเท่ากับคนรักกันได้ล่ะจ๊ะ ได้ฤกษ์งามยามมงคลออกเรือนหรือยัง”
แมงเม่าได้แต่ยิ้มเขิน....
ooooooo
หกเดือนต่อมา...
ที่เรือนไทยใหญ่โตสวยงามของมิ่ง ที่สร้างขึ้นใหม่จากที่ไปขุดสมบัติที่ฝังไว้และทำโรงงานกระดาษร่ำรวยขึ้นเหมือนเดิม วันนี้จัดงานแต่งงานของแมงเม่ากับขันทอง แมงเม่าตื่นเต้นมากชะเง้อรอขันหมากอย่างกระวนกระวายใจ จนชื่นปลอบใจว่า
“ไม่ต้องร้อนใจไปดอก อีกนานนักกว่าจะถึงฤกษ์ แลงานแต่งครานี้เป็นงานพระราชทาน อีกไม่นานก็คงมีแขกเหรื่อมาเต็มเรือน ถึงอย่างไรพ่อขันทอง เอ๊ย...ออกพระศรีก็ต้องยกขันหมากมาขออยู่แล้วล่ะ”
ครู่เดียวติ่นกับผลก็มาบอกอย่างตื่นเต้นว่ามาแล้ว มาทางเรือขบวนใหญ่โตเชียว ทั้งชื่น ม่วง ผลและมิ่งต่างช่วยกันดูในครัวและเครื่องใช้ต่างๆว่าพร้อมหรือยัง ตื่นเต้นกันจนทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด
แขกเหรื่อที่มางานต่างกินดื่มกันอย่างคึกคักสนุกสนาน แต่กลับไม่มีขันทองกับแมงเม่าอยู่ในงาน
ที่แท้แมงเม่าตื่นเต้นจนลากเป้าเข้าไปในห้องหนึ่งปิดประตูขอให้ช่วยตนด้วยบอกว่าตนกลัวการเข้าหอ พระยากำแหงกับขันทองก็อยู่ที่มุมหนึ่งในเรือน พระยา–กำแหงตกใจไม่ต่างจากเป้า อุทานทึ่ง
“เกิดมาฉันไม่เคยได้ยิน มีกลัวแบบนี้ด้วยรึ มีอย่างที่ไหนจนทำพิธีเสร็จแล้วเพิ่งมากลัว”
ขันทองขอให้เห็นใจตนด้วย เพราะตนบวชแต่เล็กแต่น้อย สึกออกมาก็ปลอมตัวเข้าวังเป็นขันที หากชีวิตไม่พลิกผันคงบวชไม่สึก ยอมรับว่า “แต่คืนนี้ต้องมาเข้าหอ กระผมไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรจริงๆ”
พระยากำแหงซึ่งผ่านการแต่งงานมาแล้วสองครั้งยืดอกสอนอย่างผู้ชำนาญ
ทั้งพระยากำแหงและเป้าต่างสอนขันทองและแมงเม่าตามประสบการณ์และบทเรียนของตน