ตอนที่ 9
ผีหยดเสียใจน้ำตาร่วง เห็นมีดพร้าที่แม่แทงตัวเองตายก็ยิ่งแค้น ผีหยาดสงสารพี่สาวจับใจเอื้อมไปแตะ เธอสะบัดมือออก ไล่ผีหยาดไปให้พ้น เธออยากอยู่ตามลำพัง แล้วร้องไห้โฮ ผีหยาดมองผีหยดอีกครั้งก่อนจะหายวับไป ผีหยดหยิบมีดพร้าขึ้นมากำไว้ ก่อนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดใจ...
ผีหยาดไปปรากฏตัวที่ห้องพักฟื้นยุพดี เห็นวิษณุนั่งเฝ้าอยู่เข้าไปกราบ เล่าเหมือนที่เล่าให้พี่สาวฟังว่าที่ผีหยดติดอยู่ที่เรือนไม่ได้ไปผุดไปเกิดไม่ใช่เป็นเพราะสัตย์สาบานที่ท่านให้ไว้แต่เป็นเพราะถูกแม่สาปแช่ง หากวันใดเธอสำนึกผิดและให้อภัยเรื่องที่ผ่านมาได้ เธอก็จะได้ไปเกิด วิษณุตื่นเต้นดีใจถามว่าผีหยดรู้เรื่องนี้หรือยัง
“รู้แล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้พี่หยดขอเวลาอยู่ลำพังเพื่อทบทวนเรื่องทั้งหมด บ่าวเฝ้าหวัง รอก็แต่เพียงว่าพี่หยดจะสำนึกได้สักวันก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป”
วิษณุอาสาจะช่วยพูดกับผีหยดอีกแรงหนึ่ง ผีหยาดดีใจหากท่านช่วยก็คงจะมีหวัง...
นอกจากจะไม่สำนึกผิด ผีหยดยังทำการสาปแช่งคืน ขุดหลุมฝังศพตัวเองที่อยู่ใต้ต้นไม้ต้นนั้น จนเจอศพถูกห่ออยู่ในผ้าเอาเส้นผมจากศพถูเลือดที่เลอะฝ่ามือตอนขุดดิน
“ตราบเส้นผมจนถึงจิตวิญญาณและเลือดของข้า...ข้าขอสาปมัน” ผีหยดกดมือและผมตัวเองเข้าไปในผิวต้นไม้ เกิดแรงสะเทือนไปทั่ว “ผู้ใดที่เคยทำกรรมไว้กับข้า ขอให้มันเจ็บขอให้มันจำให้พวกมันต้องชดใช้กรรม ชดใช้จนกว่าจะสาสมที่ข้าถูกจองจำเอาไว้ที่นี่” สิ้นเสียงสาปแช่ง ฟ้าผ่าเปรี้ยงราวกับรับคำสาปนั้น “กูจักทำให้แม่เจ็บยิ่งกว่านี้ร้อยเท่าพันเท่า อีหยาด... กูจักทำให้มึงได้แต่ดูแม่ตาย แต่ก็ทำอันใดมิได้ เจ็บเหมือนที่กูต้องเจ็บ”
เส้นผมเปื้อนเลือดหายเข้าไปในต้นไม้ อึดใจเดียวต้นไม้ที่เขียวขจีเหี่ยวเฉายืนต้นตาย...
ท้องฟ้าแปลบปลาบครืนๆราวกับเกิดอาเพศ หลวงพ่อนั่งสมาธิอยู่ในกุฏิเหมือนจะรับรู้ถึงคำสาปแช่งนี้ได้
“นานถึงเพียงนี้แล้วยังอาฆาตมาดร้ายต่อคนอื่นมิเปลี่ยนแปลง เวลาแห่งการสำนึกผิดเหลืออีกไม่นานแล้วแท้ๆ ประตูแห่งแสงสว่างคงมิอาจนำพาได้แล้ว สิ่งใดที่เจ็บแค้นไว้คงมองเป็นโทษจากผู้อื่นเสียหมด” หลวงพ่อเปลี่ยนจากนั่งสมาธิไปเป็นสวดมนต์แทน...
ทางด้านกิฟท์ไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลย มาดักรอต้นแต่เช้า เห็นเขาขึ้นรถกำลังจะสตาร์ตเครื่อง รีบขึ้นไปนั่งเบาะข้างคนขับมีเรื่องอยากจะคุยด้วยแล้วยื่นซองเอกสารให้เขาเปิดดู ต้นถึงกับหน้าเจื่อนเมื่อเห็นภาพตัวเองกอดกับผู้ชายแต่ไม่เห็นว่าเป็นใคร เธอสัญญาจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับแลกกับที่เขายอมเป็นคู่รักของเธอ ซึ่งจะต้องเล่นละครคู่กัน อีเวนต์คู่กัน ต้นพยายามต่อรองขอทำอย่างอื่นให้แทน
“พี่ต้นลองไปคิดก่อนก็ได้ค่ะ ยังไงเรื่องนี้ กิฟท์ก็มีแต่ได้ค่ะ ไม่มีเสีย” กิฟท์วางซองเอกสารไว้ก่อนลงจากรถ ต้นมองตามหน้าเครียด
ooooooo