ตอนที่ 9
แม่เยื้อนเหมือนคนเสียสติเอาแต่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จา นายแม่สุดทนเข้าไปตบตีเธออุตลุด สั่งให้พูดเธอยังคงนั่งนิ่งไม่รู้สึกรู้สม
“แล้วพวกมึงมีใครจักเป็นพยานได้บ้าง” นายแม่กวาดตามองหน้าพวกบ่าว หนึ่งในทาสหญิงโพล่งขึ้น
“อีหยาดมันวางยาคุณกำไลเจ้าค่ะ บ่าวจะไปตามอีเยื้อนมาให้การแต่พอเปิดเข้าไปก็เห็นอีเยื้อนกอดศพอีหยดอยู่เจ้าค่ะ”
“เรื่องจริงรึ อีเยื้อนตอบข้ามา” นายแม่เกรี้ยวกราด แม่เยื้อนยังคงนิ่งเงียบ นายแม่เหลืออดตบตีจนเลือดกบปากก็ไม่มีเสียงร้องสักแอะให้ได้ยิน
“ถ้ามึงไม่พูดกูจะตบจนเลือดมึงหมดตัว” นายแม่ทั้งตบตีทั้งกระทืบจนแม่เยื้อนกระอักเลือด ผีหยาดได้แต่รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ช่วยอะไรไม่ได้
ooooooo
แม่เยื้อนถูกล่ามโซ่ขังไว้ในห้องใต้ดิน ผีหยาดยืนมองแม่ที่มีสภาพไม่ต่างจากคนบ้า ได้แต่สะท้อนใจ เธอเอาแต่ร้องเพลงกล่อมลูก แต่ไม่ยอมปริปากพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณกำไล...
ชดมองศพลูกสาวทั้งสองคนด้วยใจแทบสลาย อ้อนวอนขอให้พาแม่เยื้อนมาร่ำลาลูกได้หรือเปล่า ทาสชายทำอย่างนั้นไม่ได้ นายแม่กำชับห้ามเอาตัวแม่เยื้อนออกจากห้องใต้ดินเด็ดขาด
“แต่นี่ลูกทั้งคน”
“เอ็งอย่ามาทำเป็นพูด แม่นายเสียทั้งคุณกำไล และหลานที่ยังเล็กนัก ลูกของเอ็งมันอัปรีย์ทั้งอีหยดอีหยาด นี่ถ้าไม่ใช่เพราะคุณพระขอร้องให้ฝัง ป่านนี้ศพของลูกเอ็งคงโดนเอาไปโยนให้แร้งทึ้งแล้ว”...
งานศพคุณกำไลกับลูกทั้งสองคนเป็นไปอย่างโศกเศร้า แขกที่มาร่วมงานต่างซุบซิบนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณกำไลกันอย่างสนุกปาก
“นี่ตายทั้งกลมเลยรึ”
“ใช่ เขาว่าโดนหนึ่งในเมียทาสของคุณพระวางยาพิษ”
“อีพวกทาสมันก็มักใหญ่ใฝ่สูงอย่างนี้แหละ คงจะริษยาแม่กำไลเขาจนทนไม่ไหว”
“เมื่อกี้หล่อนว่าเมียทาสนั้นชื่อกระไรนะ”
“เห็นเขาว่าชื่ออีหยาด”
“อีหยาด หน็อย นางทาสใจบาป” แขกพากันนินทาไม่สนใจว่าเสียงจะดังไปถึงหูคุณพระวนาเทพหรือไม่...
ชดฝังศพลูกทั้งสองเพียงลำพังไม่มีใครมาร่วมงาน หยาดตายตาหลับแต่หยดนอนตายตาลืมโพลง เขาพยายามปิดตาลูกก็ไม่สำเร็จ
แม่เยื้อนที่ถูกล่ามโซ่ขังไว้ในห้องใต้ดินได้แต่ภาวนาถึงวิญญาณของลูก
“หยด มิว่าเพลาจักผ่านไปนานสักเพียงใด เอ็งก็ยังคงทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูงเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ต่อให้ต้องทำสิ่งที่ระยำ เลวทรามเพียงใด เอ็งก็มิรู้ว่ามันผิด...หากชาติหน้ามีจริง และข้ากับเอ็งจักต้องสิ้นสุดจากกันดังวาจาที่เอ็งลั่นไว้ ข้าคงไม่ได้เกิดมาอบรมสั่งสอนเอ็งอีก ข้าขอใช้ฐานะความเป็นแม่ในชาตินี้ สาปแช่งให้เอ็งติดอยู่ที่นี่ไม่ได้ไปผุดไปเกิด จนกว่าเอ็งจักสำนึกในบาปกรรมที่เอ็งทำลงไป”