ตอนที่ 9
“ฉันมาเพื่อบอกเธอว่าชาตินี้ฉันคงทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพี่สาวเธอไม่ได้ ฉันไม่สามารถให้ทั้งความรัก ทั้งฐานะเมียที่ฉันเคยพูดไว้ในอดีตและมันก็คงเป็นคำสาปที่ทำให้ฉันต้องติดบ่วงกรรมตัวเองจนถึงชาตินี้ ให้อภัยฉันเถิดนะหยาด ฉันผิดต่อพี่สาวเธอนัก” วิษณุมองไปรอบๆมั่นใจว่าไม่มีผีหยาดก็หันหลังเดินจากมา
“เหตุใดคุณพระจึงพูดจาตัดเสน่หาบ่าวเยี่ยงนั้นเล่า” ผีหยดน้ำตาซึม...
ที่ห้องพักฟื้น ผีหยาดปรากฏตัวขึ้นมานั่งข้างๆแม่ จับมือไว้ข้างหนึ่ง แม้ตาจะหลับแต่ลูกตายุพดีกลอกไปมาเหมือนฝันอะไรสักอย่าง นิ้วของเธอเริ่มขยับได้ ก่อนจะดึงมือผีหยาดหายไปในรอยเชื่อมต่อของกาลเวลา ย้อนไปในอดีตที่ห้องใต้ดิน ผีหยาดเห็นหยดนอนอยู่กับพื้นมีมีดพร้าปักอยู่ เลือดมากมายไหลนองพื้น แม่เยื้อนคลานเข้าไปกอดหยดไว้
“หยด หยดลูกแม่ หยด...ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยลูกข้าด้วย” แม่เยื้อนคร่ำครวญปานจะขาดใจ หยดมองแม่เขม็ง
“สาแก่ใจแม่แล้วใช่ไหม แม่คงอยากให้ฉันตายมานานแล้ว ลูก...ที่แม่ไม่เคยเห็นเป็นลูก”
ผีหยาดยืนมองแม่กับพี่สาวอย่างใจสลายเพิ่งได้เห็นเหตุการณ์หลังจากที่ตัวเองตาย จังหวะนั้นมีเสียงนางทาสร้องเรียกให้แม่เยื้อนเปิดประตูออกมา หยดกับแม่ยังคงจ้องหน้ากัน
“ชาติหน้า มิว่าจักเกิดเป็นนายหรือบ่าว ขออย่าได้พบเจอ อย่าได้ต้องเกี่ยวข้องกัน ข้าจักไม่ขอเกิดเป็นลูกคนเยี่ยงเอ็งอีก” หยดตะโกนจนเจ็บแผลถูกแทง เลือดไหลออกจากปาก แววตาเลื่อนลอยใกล้ตาย “แม้ผู้ใดที่เกิดมาเป็นลูกคนอย่างเอ็ง ขอให้พานพบกับเรื่องอัปรีย์ ให้มันเจ็บ...ให้มันแค้นเท่าข้า” หยดเริ่มกระตุกติดๆกันก่อนจะแน่นิ่ง แม่เยื้อนร้องไห้โฮกอดศพลูกไว้
“หยด...หยดลูกแม่...แม่รักเอ็งได้ยินไหม แม่รักเอ็ง”
ประตูห้องใต้ดินถูกทาสชายพังจนเปิด ต่างตกใจที่เห็นหยดตายอนาถ ทาสชายโวยวายว่าแม่เยื้อนทำอะไรลงไป เธอไม่รับฟังเสียงใดๆพยายามปลุกลูกให้ฟื้นจะมาตายจากตนไปอีกคนไม่ได้ ทาสชายพยายามแยกเธอออกจากศพหยด แต่เธอกอดไว้แน่น
“อีหยด อีหยด...ไม่จริง...ไม่จริง เอ็งแกล้งมิได้ยินเสียงข้าใช่รึไม่ ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้อีหยด”
ทาสชายช่วยกันแยกแม่เยื้อนออกจากศพจนได้ จากนั้นพาตัวไปที่เรือนใหญ่พบกับแม่นายที่ต้องสูญเสียทั้งลูกและหลานในคราวเดียวกัน
“อีเยื้อน มึงอธิบายกูมาเดี๋ยวนี้ นี่มันเรื่องอันใด ทำไมลูกสาวกู หลานกูจักต้องอยู่ในสภาพเยี่ยงนี้”